ม.หอการค้าฯประเมินน้ำท่วมภาคใต้กระทบเศรษฐกิจ 10 จังหวัด ฉุด GDP ทั้งปีโตแค่ 1.9 % มองปี’69 ยังชะลอตัวจากปัจจัยเสี่ยงกำแพงภาษี มีผลให้ส่งออกไม่ขยายตัว
รศ.ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการสำรวจผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ว่า ภาพรวมมีผลกระทบทั้งหมด 10 จังหวัดโดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จ.สงขลา มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจในกรอบเวลา 30 วัน อยู่ที่กว่า 4 หมื่นล้านบาทในภาคบริการและท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักสุดคิดเป็นมูลค่า 2.25 หมื่นล้านบาท รองลงเป็นเกษตรกรรม 1.07 หมื่นล้านบาทและการผลิตและสาธารณูปโภค 6,840 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้พิจารณาปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2568 ลงเหลือ 1.9% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 2 % โดยมีสาเหตุหลักจากปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ภาคใต้ ถือเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจเนื่องจากหาดใหญ่ ถือเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าใหญ่ของภาคใต้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบอื่น ๆ กดดัน เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ ที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 32.8 ล้านคน จากเดิมคาดไว้ 33 ล้านคน ขณะที่พฤติกรรมการใช้จ่ายต่อหัวลดลง รวมถึงอุปสงค์ภาครัฐในช่วงไตรมาส 3/68 ที่ลดลงเกือบ 4% ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลให้มีการปรับลด GDP ของปีนี้ลงเหลือ 1.9%
สำหรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2569 มีแนวโน้มชะลอตัวลงขยายตัวได้ 1.6% โดยมีปัจจัยลบจากความเสี่ยงกำแพงภาษีสหรัฐ การค้าโลกชะลอตัว ที่อาจมีผลให้ส่งออกกลับมาติดลบ 1% หนี้ครัวเรือนสูง รวมถึงสุญญากาศการเมืองในช่วงจัดตั้งรัฐบาลมีผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2570 และความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ในเรื่องปัจจัยการเมืองไตรมาสแรกของปีหน้าแม้ยังมีความกังวลด้านเสถียรภาพแต่ก็เป็นดาบสองคมจเศรษฐกิจไทยได้แรงหนุนจากเม็ดเงินหมุนเวียนช่วงเลือกตั้งราว 5-6 หมื่นล้านบาท แต่ในไตรมาสสุดท้ายเสี่ยงเกิด "สุญญากาศงบประมาณ" จากความล่าช้าของงบปี 2570 ซึ่งอาจฉุด GDP ลง -0.32% หากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า