ผลสำรวจล่าสุดเผยว่า SME ไทยกว่า 53% กังวลต้นทุนโลจิสติกส์ในปี 2569 ขณะที่มากกว่า 90% ยืนยันว่าใช้ลาลามูฟช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และขยายบริการใหม่ เช่น จัดส่งภายในวัน
ลาลามูฟ แพลตฟอร์มให้บริการขนส่งด่วนและรับส่งผู้โดยสารแบบออนดีมานด์ เผยผลสำรวจล่าสุดในกลุ่มผู้ประกอบการ SME ไทยกว่า 700 ราย ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม พบว่า ผู้ประกอบการกว่า 53% กังวลต่อความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจปี 2569 และให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์
ผลสำรวจยังชี้ว่า SME ไทยกว่า 90% ที่ใช้ลาลามูฟมองว่าแพลตฟอร์มช่วยสนับสนุนการเติบโต ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง และขยายบริการใหม่ เช่น จัดส่งภายในวันหรือภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโซลูชันที่ยืดหยุ่นของลาลามูฟช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้รวดเร็ว
เทรนด์ SME ไทย: อีคอมเมิร์ซโตต่อ ต้นทุนกำหนดทิศทางธุรกิจ
ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ที่ใช้บริการลาลามูฟทำธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ (26.9%) รองลงมาคืออุตสาหกรรมการผลิต (14.4%) และธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม (11%) แสดงให้เห็นว่าบริการขนส่งแบบออนดีมานด์เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม
แม้ความต้องการใช้บริการขนส่งยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ต้นทุนโลจิสติกส์ยังเป็นความท้าทายหลัก โดย 40.4% ของผู้ประกอบการมองว่าการจัดการค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเป็นปัญหาเร่งด่วนอันดับหนึ่ง และ 78.1% เห็นตรงกันว่าบริการขนส่งที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้มีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ
ผู้ประกอบการยังให้ความสำคัญกับพาร์ทเนอร์ที่มี โครงสร้างราคาชัดเจน โปร่งใส ไม่มีค่าบริการแอบแฝง รองลงมาคือราคาคุ้มค่าและมาตรฐานความปลอดภัยสูง ซึ่งสะท้อนว่า การเลือกพาร์ทเนอร์ช่วยบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความสามารถแข่งขันในตลาด
นายเบน ลิน กรรมการผู้จัดการ ลาลามูฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ลาลามูฟเข้าใจความท้าทายของ SME และมุ่งมั่นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการประหยัดเวลา บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตอย่างคล่องตัว ผ่านบริการขนส่งที่เชื่อถือได้ พร้อมระบบติดตามสถานะแบบเรียลไทม์และพาร์ทเนอร์คนขับมืออาชีพ เราจะพัฒนาบริการต่อเนื่องเพื่อเป็นพาร์ทเนอร์เคียงข้าง SME ในทุกช่วงการเติบโต”
ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลาลามูฟ ประเทศไทย
