ดัชนีเชื่อมั่นฯบวกต่อเนื่อง หวัง‘คนละครึ่่ง พลัส’กระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีเชื่อมั่นฯบวกต่อเนื่อง หวัง‘คนละครึ่่ง พลัส’กระตุ้นเศรษฐกิจ
ม.หอการค้าฯมองแนวโน้มความเชื่อมั่นขาขึ้นเริ่มมีหวัง หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นใช้จ่าย มองต้นปีหน้ากิจกรรมเลือกตั้งทำเงินสะพัดได้ 4-5 หมื่นล้าน

ร.ศ.ดร.ธนวรรธน์   พลวิชัย  อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม 2568 โดยรวมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 9 เดือน และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังและมีความเชื่อมั่นว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะทำให้ฟื้นตัวได้ในระยะสั้น

ทั้งนี้แม้ว่ายังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้าที่สหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่อาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยอาจฟื้นตัวได้ช้าก็ตาม

ด้านดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 45.5 49.7 และ 60.6 ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเป็น ครั้งแรกในรอบ 9 เดือน โดยปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนกันยายน ที่อยู่ในระดับ 44.4 48.5 และ 59.3 ตามลำดับ

การที่ดัชนีทุกรายการยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจนแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังไม่มีผลงานที่ออกมาเป็นรูปธรรมและค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง

ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงจากสงครามการค้า และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 50.7 เป็น 51.9 โดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า และค่าครองชีพสูง ตลอดจนปัญหาสงครามการค้าและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี

ด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวดีขึ้นดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน จากระดับ 34.4 เป็น 35.3 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบ 9 เดือน จาก 58.7 มาอยู่ที่ระดับ 60.1 การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 แสดงว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความเชื่อมั่นในปัจจุบัน แต่ผู้บริโภคเริ่มมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้จากนโยบายคนละครึ่งพลัสและนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาล ซึ่งจะต้องตามดูสถานการณ์ต่อไปว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนถัดไปจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมากน้อยเพียงใด  คาดว่าผู้บริโภคจะเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 นี้

“ต้นปีหน้าเศรษฐกิจยังเผชิญกับสุญญากาศทางการเมืองเพื่อรอการเลือกตั้งครั้งใหม่ ดังนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ น่าจะเกิดอีกครั้งในช่วงพ.ค.-มิ.ย. สำหรับการเลือกที่จะเกิดขึ้นประเมินว่ากิจกรรมต่างๆจะทำให้เงินสะพัดเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 หมื่นล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งจะช่วยค้ำยันเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปีได้”

 

TAGS: #ม.หอการค้าฯ #คนละครึ่ง #พลัส #กระตุ้นเศรษฐกิจ #เลือกตั้ง