KBANK ชี้แบงก์ไทยต้องเร่งใช้ AI และลงทุนเทคโนโลยีการเงินเพิ่ม หลังไทยยังตามหลังต่างประเทศ พร้อมร่วมมือรัฐบริหารหนี้–คุม NPL ไม่เกิน 3.25%
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวในปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Financing the Future: How Capital Architects Shape New Frontier Industries – ปลดล็อกพลังโลกการเงิน สู่พรมแดนใหม่เศรษฐกิจไทย” ว่า การปลดล็อกศักยภาพของระบบการเงินไทย จำเป็นต้องอาศัยธุรกิจที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง โดยเฉพาะ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจยุคใหม่
เธอกล่าวว่า ปัจจุบันการลงทุนด้านเทคโนโลยี เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ในต่างประเทศมีมูลค่าสูงมาก ขณะที่ประเทศไทยยังอยู่ในระดับเริ่มต้น โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กของธนาคารแต่ละแห่ง ดังนั้น ภาคการเงินไทยจึงควรเร่งลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว
“เศรษฐกิจไทยยังมีความท้าทาย แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส การขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาคธนาคารและภาครัฐ เพื่อให้ระบบการเงินเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน” นางสาวขัตติยากล่าว
ด้าน นายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ KBANK เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งบริษัทร่วมบริหารสินทรัพย์ (JV-AMC) ว่า ปัจจุบันธนาคารมีโครงการร่วมแล้ว ได้แก่ JK AMC (ร่วมกับ JMT) และ ARUN (ร่วมกับ BAM) เพื่อบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์และช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธนาคารพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ไปยัง SAM หากเป็นไปตามแนวนโยบายของทางการ
สำหรับแนวโน้มสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) นายจงรักระบุว่า ปัจจุบันอัตรา NPL ของ KBANK อยู่ที่ 3.19% และยังคงเป้าหมายปีนี้ไว้ที่ระดับ ไม่เกิน 3.25% โดยธนาคารยังคงเน้นการเติบโตของสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ ควบคู่กับการดูแลลูกค้าและบริหารคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว