“คนละครึ่ง พลัส” เปิดวันแรกคึกคัก เงินเข้าบัญชี ‘เป๋าตัง’ แล้ว 96% ของผู้ใช้ทั่วประเทศ แห่ใช้สิทธิ์จับจ่ายกว่า 500 ล้านบาท ภายในครึ่งวันแรก รัฐมั่นใจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีตามเป้า
โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เปิดใช้งานวันแรกสร้างกระแสคึกคักทั่วโซเชียลมีเดีย โดยข้อมูลจาก เรียลวอทช์ แล๊ป (RealWatch Lab) ส่วนวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) เผยว่า ระหว่างเวลา 06.00–13.00 น. มีการพูดถึงโครงการดังกล่าวบนโซเชียลมีเดียกว่า 11,793 ข้อความ คิดเป็นประมาณ 70% ของการพูดถึงทั่วประเทศ
ในจำนวนนี้ 96% เป็นการแชร์ข้อมูลทั่วไป เช่น การได้รับเงินเข้าบัญชีในแอป “เป๋าตัง” แล้ว การสอบถามวงเงินใช้จ่ายต่อวัน รวมถึงรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยผู้ใช้จำนวนมากยังแบ่งปันทำเลร้านค้าที่ร่วมโครงการและประสบการณ์การใช้งานระบบ
ขณะเดียวกัน มีการแสดงความเห็นเชิงบวก 2% ของข้อความทั้งหมด ส่วนใหญ่ชื่นชมว่าโครงการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดมีความคึกคัก และช่วยลดภาระค่าครองชีพ โดยเฉพาะการขยายการใช้จ่ายผ่านรถไฟฟ้าได้ด้วย
อีก 2% ของข้อความเป็นความเห็นเชิงลบ โดยสะท้อนปัญหาหลัก 3 ประเด็น ได้แก่
-
ขั้นตอนลงทะเบียนร้านค้ามีความซับซ้อน
-
ระบบแอปเป๋าตังล่าช้า และร้านค้าต้องสร้าง QR Code ใหม่ทุกครั้ง
-
ร้านค้าที่เข้าร่วมยังมีจำนวนจำกัด และประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง
ด้าน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วงเวลา 06.00–12.30 น. ของวันแรก มีผู้ใช้สิทธิกว่า 2.49 ล้านราย มียอดใช้จ่ายรวม 501.11 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 252.40 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่าย 248.71 ล้านบาท
สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้แนวคิด “Quick Big Win” ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล ใช้งบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท โดยเปิดให้ประชาชน 20 ล้านสิทธิ์เข้าร่วม และมีร้านค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 523,603 ราย อีก 101,741 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ
โครงการเฟสแรกเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00–23.00 น. ผ่านแอป “เป๋าตัง” รัฐจะร่วมจ่าย 50% ของค่าสินค้าและบริการที่กำหนด ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน โดยผู้ที่ยื่นภาษี ภ.ง.ด. 90, 91 หรือ 95 ปีภาษี 2567 จะได้รับสิทธิสูงสุด 2,400 บาท ส่วนประชาชนทั่วไปได้รับสูงสุด 2,000 บาท ตลอดโครงการ
ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากโครงการ
บริษัท เรียล สมาร์ท จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำการวิเคราะห์ เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI และ Data Platform ครบวงจร มีผลงานนวัตกรรมซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์กว่า 14 รายการ และจดทะเบียนอยู่ในตลาด Live Exchange
