สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการ “Cash Back” คืนเงินผู้ซื้อสลากดิจิทัลที่ไม่ถูกรางวัล หวังส่งเสริมการออมตามนโยบายรัฐบาล คาดเริ่มได้ภายใน 4 เดือน โดยใช้งบจากค่าบริหารจัดการ 17%
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ พร้อมเดินหน้านโยบาย "Cash Back" หรือการคืนเงินให้ประชาชนที่ซื้อ สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบดิจิทัล (L6) แล้วไม่ถูกรางวัล ตามแนวนโยบายส่งเสริมการออมของรัฐบาล โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่อง สัดส่วนการคืนเงิน ที่ชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอคณะกรรมการสลากฯ พิจารณาและให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนาม เพื่อให้เริ่มดำเนินโครงการได้ภายใน 4 เดือน
ใช้งบส่วนค่าบริหารจัดการ 17% หนุนโครงการ
พันโท หนุน ระบุว่า งบประมาณที่จะใช้ในการคืนเงินดังกล่าว มาจาก ส่วนค่าบริหารจัดการและจำหน่าย 17% ของรายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันมีการจัดสรรไปให้กับตัวแทนจำหน่าย มูลนิธิ และองค์กรต่างๆ ประมาณ 12-14% แล้ว ทำให้เหลือส่วนที่สำนักงานสลากฯ สามารถใช้บริหารจัดการได้จริงเพียง 3-5% เท่านั้น
“รายได้จากส่วนนี้ยังมีข้อกำหนดให้สำนักงานต้องนำส่งคืนรัฐอีกจำนวนหนึ่ง โดยในแต่ละปีสำนักงานสลากฯ มีรายได้จากส่วนนี้ราว 9,000 ล้านบาท และต้องนำส่งรัฐ 7,000 ล้านบาท ทำให้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะสามารถจัดสรรคืนให้ประชาชนได้ในสัดส่วนเท่าใด” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าว
รายได้จากการขายสลากดิจิทัลแตะ 27 ล้านใบต่องวด
ปัจจุบัน ยอดขายสลากดิจิทัลเฉลี่ยต่องวดอยู่ที่ ประมาณ 27 ล้านใบ แสดงถึงศักยภาพของตลาดที่สามารถนำมาสนับสนุนแนวทางการคืนเงินได้โดยไม่กระทบกับโครงสร้างหลักของรายได้ โดยรายได้รวมจากการจำหน่ายสลากแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
-
เงินรางวัล 60%
-
นำส่งเข้ารัฐ 23%
-
ค่าบริหารจัดการและจำหน่าย 17%
ย้ำไม่ปรับราคาสลาก แม้เคยมีข้อเสนอเพิ่มเป็น 100 บาท
ในประเด็นที่มีข้อเสนอให้ ปรับราคาสลากจาก 80 บาทเป็น 100 บาท เพื่อเพิ่มงบประมาณในการบริหารจัดการ พันโท หนุน ยืนยันว่า ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากราคาสลากในตลาดยังคงสูงเกิน 80 บาท และสำนักงานเคยทำแบบสอบถามแล้วพบว่า ยังไม่ควรมีการปรับราคาในขณะนี้
หนุนออมผ่านโครงการ Cash Back ควบคู่ "หวยเกษียณ" กอช.
พันโท หนุน ยืนยันว่า โครงการคืนเงินนี้ ไม่ใช่การแข่งกับโครงการ “หวยเกษียณ” ของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) แต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการส่งเสริมการออม โดยมีหลักการเบื้องต้นคือ
-
ผู้ซื้อสลากดิจิทัลแล้วไม่ถูกรางวัล จะสามารถขอรับเงินคืนบางส่วน
-
เงินคืนดังกล่าวจะ ออมสะสมไว้จนถึงอายุ 55 ปี
-
ผู้ที่มีอายุ 56 ปีขึ้นไปยังสามารถออมต่อได้อีก 5 ปี
โครงการนี้สะท้อนนโยบายของรัฐบาลในการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาออมเงินผ่านช่องทางที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยสำนักงานสลากฯ จะสรุปรายละเอียดโครงการและเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบภายในเร็ว ๆ นี้