ปตท.เริ่มกลยุทธ์ Asset Monetization ใช้สินทรัพย์-เงินทุนเกิดประโยชน์สูงสุด

ปตท.เริ่มกลยุทธ์ Asset Monetization ใช้สินทรัพย์-เงินทุนเกิดประโยชน์สูงสุด
ปตท. ปรับโครงสร้างธุรกิจมุ่งสร้าง Synergy ส่ง พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล เป็น Infrastructure Flagship ตั้งบริษัทย่อยใหม่ทำธุรกรรมซื้อทรัพย์สินและให้เช่ากลับ GC และไทยออยล์

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. ได้ดำเนินกลยุทธ์ Asset Monetization (A1) เพื่อบริหารสินทรัพย์ในกลุ่มให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน โดยมอบหมายให้ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT Tank) เป็น Infrastructure Flagship

ทั้งนี้จะดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ที่ PTT Tank ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อเข้าทำธุรกรรมประกอบด้วย ธุรกรรมซื้อทรัพย์สินและให้เช่ากลับ และธุรกรรมซื้อทรัพย์สินและรับบริการ จาก บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) และร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมใหม่ซึ่งจะถือหุ้นโดย บริษัทย่อยใหม่ของ PTT Tank และ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) ในสัดส่วนร้อยละ 49.0 และ 51.0 ตามลำดับ เพื่อดำเนินการเช่าระยะยาวจาก TOP เป็นเวลา 21 ปี และเช่าช่วงทรัพย์สินกลับเพื่อใช้ในการดำเนินงาน

นอกจากนี้ PTT Tank จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทยแท้งค์เทอร์มินัล จำกัด จาก PTTGC ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 35.43 โดย PTT Tank จะเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ครอบคลุมธุรกิจ บริการรับ จัดเก็บ และขนถ่ายสินค้าเหลว โดยโครงการดังกล่าวมีกำหนดทยอยแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนธันวาคม 2568 จนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2569

สำหรับกลยุทธ์ Asset Monetization ของกลุ่มปตท. มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารการใช้สินทรัพย์ในกลุ่ม ปตท. ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งสร้าง Synergy เพื่อก่อให้เกิด Asset & Capital Optimization รวมถึงการ unlock value ของสินทรัพย์ สร้างธุรกิจโมเดลใหม่ Energy Infrastructure ของกลุ่ม พร้อมทั้งยังคงยึดมั่นในบทบาทการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุล

น.ส.ภัทรลดา สง่าแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. กล่าวว่า การเข้าทำธุรกรรมนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจและการเงินให้แก่ ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ PTTGC และ TOP ซึ่งจะได้รับกระแสเงินสดส่วนเพิ่มและรับรู้กำไรพิเศษจากธุรกรรมดังกล่าว รวมถึงมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจาก Synergy & Efficiency โดยไม่กระทบต่อการดำเนินงานของแต่ละบริษัท อีกทั้งยังคงสามารถใช้ประโยชน์ของทรัพย์สินเพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การสร้างผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นและเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน

TAGS: #ปตท. #Synergy #พีทีที #แทงค์ #เทอร์มินัล #GC #ไทยออยล์