ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ 8 เดือนแรกทะลุ 5.9 หมื่นราย

 ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ 8 เดือนแรกทะลุ 5.9 หมื่นราย
กรมพัฒนาธุรกิจฯ ชี้ธุรกิจตั้งใหม่ 8 เดือนแรกลดลงเล็กน้อย ขณะที่ทุนจดทะเบียนขยายตัวแตะ 1.94 แสนล้านบาท จับตา 3ธุรกิจโดดเด่นขายส่ง- โรงแรม-โลจิสติกส์

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม  อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้วิเคราะห์สถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนสิงหาคม 2568 พบว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7,641 ราย เพิ่มขึ้น 42 ราย (0.55%) เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2567 (7,599 ราย) ในขณะที่ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 23,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,539 ล้านบาท (31.38%) เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2567 (17,650 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 1,171 ล้านบาท (5.32%) เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2568

ด้านธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 592 ราย ทุนจดทะเบียน 997 ล้านบาท 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 360 ราย ทุนจดทะเบียน 1,676 ล้านบาท  3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 293 ราย ทุนจดทะเบียน 935 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.75%, 4.71% และ 3.83% ของจำนวนการจัดตั้งธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2568 ตามลำดับ

ทั้งนี้ในเดือนสิงหาคม 2568 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 3 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 6,366 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท เน็กซ์ดีซี กรุ๊ป (ทีเอช) จำกัด ทุนจดทะเบียน 3,440 ล้านบาท ประกอบกิจการพัฒนาและประกอบกิจการศูนย์บริการระบบข้อมูล (Data Center) บริษัท เคเจพี โฮลดิ้ง จำกัด ทุนจดทะเบียน 1,586 ล้านบาท ประกอบกิจการร่วมลงทุนกับนิติบุคคล บุคคล องค์การ สถาบัน ทั้งในประเทศเเละต่างประเทศ ในกิจการธุรกิจทุกประเภท และบริษัทนราธิวาส ซิตี้ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1,340 ล้านบาท ประกอบกิจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (โดยมิใช่ธุรกิจหลักทรัพย์)

สำหรับการจัดตั้งใหม่ช่วง 8 เดือนของปี 2568 (มกราคม-สิงหาคม 2568) มีจำนวน 59,189 ราย ลดลง 2,630 ราย (4.25%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (61,819 ราย) ในขณะที่ทุนจดทะเบียน 194,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,914 ล้านบาท (4.24%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 (186,433 ล้านบาท)

ด้านธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 4,699 ราย 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 3,619 ราย และ 3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 2,411 ราย คิดเป็นสัดส่วน 7.94%, 6.11% และ 4.07% จากจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในช่วง 8 เดือนของปี 2568 ตามลำดับ

 การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 2568 มีจำนวน 1,660 ราย ลดลง 403 ราย (19.53%) เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2567 (2,063 ราย) และมีทุนจดทะเบียนเลิก 12,334 ล้านบาท ลดลง 1,480 ล้านบาท (10.72%) เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2567 (13,814 ล้านบาท) สำหรับประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 121 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 210 ล้านบาท

2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 91 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 353 ล้านบาท และ 3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 66 ราย ทุนจดทะเบียนเลิก 118 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.29%, 5.48% และ 3.98%

อย่างไรก็ตามจากจำนวนการเลิกประกอบธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2568 ตามลำดับ ทั้งนี้ เดือนสิงหาคม 2568 มีบริษัทที่มีมูลค่าทุนจดทะเบียนสูงเลิกประกอบกิจการ 1 ราย คือ บริษัททรู มัลติมีเดีย จำกัด ทุนจดทะเบียน 6,562.00 ล้านบาท ประกอบกิจการค่าบริการใช้โครงข่ายมัลติมีเดีย และค่าบริการทางเทคนิค

ด้านการจดทะเบียนเลิกช่วง 8 เดือนของปี 2568 (มกราคม-สิงหาคม 2568) มีจำนวน 9,729 ราย ลดลง 263 ราย    (2.63%) เมื่อเทียบกับช่วง 8 เดือนของปี 2567 (9,992 ราย) ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 63,033 ล้านบาท ลดลง 36,360 ล้านบาท (36.58%) เมื่อเทียบกับช่วง 8 เดือนของปี 2567 (99,393 ล้านบาท) โดยธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 828 ราย 2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 503 ราย และ 3) ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 418 ราย คิดเป็นสัดส่วน 8.51%, 5.17% และ 4.30% จากจำนวนการจดทะเบียนเลิกธุรกิจในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 ตามลำดับ

สำหรับสัดส่วนของการจัดตั้งธุรกิจและจดเลิกในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 6:1 กล่าวคือ จัดตั้ง 6 ราย เลิก 1 ราย โดยสัดส่วนนี้เท่ากับค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีย้อนหลัง (2563-2567) ทั้งนี้ ในปี 2568 มีจำนวนจัดตั้งใหม่ 59,189 ราย   ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่มีจำนวน 54,746 ราย และยังคงเป็นไปตามวัฏจักรของการจดทะเบียนธุรกิจ

สำหรับประเภทธุรกิจที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วง 8 เดือนของปี 2568 ใน 3 อันดับแรก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 คือ 1. ธุรกิจขายส่งสินค้าทั่วไปโดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เพิ่มขึ้น 368 รายคิดเป็น 51.18% 2. ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด เพิ่มขึ้น 305 ราย คิดเป็น 44.79% และ 3. ธุรกิจขนส่ง ขนถ่ายสินค้า และคนโดยสาร เพิ่มขึ้น 288 ราย คิดเป็น 26.18%

ขณะที่ธุรกิจชะลอการจัดตั้งใน 3 อันดับคือ 1. ธุรกิจตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 343 ราย คิดเป็น 27.77% 2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 1,079 ราย คิดเป็น 22.97% และ 3. ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ลดลง 427 ราย คิดเป็น 15.05%

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 2,024,018 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 31.16 ล้านล้านบาท โดยมีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ 970,953 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22.83 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 769,048 ราย หรือ 79.21% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 17.10 ล้านล้านบาท

ห้างหุ้นส่วนจำกัดและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 200,409 ราย หรือ 20.64% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 0.44 ล้านล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด 1,496 ราย หรือ 0.15% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 5.30 ล้านล้านบาท  สำหรับนิติบุคคลในกลุ่มธุรกิจบริการเป็นประเภทธุรกิจที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนมากที่สุดมีจำนวน 526,852 ราย ทุนจดทะเบียน 13.21 ล้านล้านบาท รองลงมาคือ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง/ค้าปลีก 317,596 ราย ทุน 2.59 ล้านล้านบาท และธุรกิจผลิต 126,505 ราย ทุน 7.03 ล้านล้านบาท คิดเป็น 54.26%, 32.71% และ 13.03% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ตามลำดับ

TAGS: #กรมพัฒนาธุรกิจฯ #ขายส่ง #โลจิสติกส์