“พิชัย” ชี้ที่ประชุมบอร์ดกระตุ้นศก.อนุมัติใช้งบฯ 4.2 หมื่นล้าน รับมือภาษีทรัมป์ “ หลัง งบ อปท.อาจจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน 30 ก.ย.และซ้ำซ้อนกับงบฯ69 หวังใช้แหล่งงบอื่นเยียวยาท้องถิ่นแทน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เผยการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันนี้ (24 ก.ค.) การจัดสรรงบประมาณในส่วนที่เหลือจากวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเหลืออยู่ประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาทนั้น ก่อนหน้านี้ จัดสรรให้อปท. โดยจะจัดสรรไปเพื่อรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ ซึ่งเรื่องของภาษีทรัมป์เป็นเรื่องส่วนใหญ่ที่ต้องใช้เงิน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เผยว่าในการประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจในวันนี้ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีนายพิชัย เป็นประธาน โดยจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่วงเงินประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาทจัดทำโครงการเพื่อรับมือผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ภาษีทรัมป์ โดยเน้นโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอี พยุงการจ้างงาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย นอกจากนั้นมีงบประมาณบางส่วนที่จัดสรรในโครงการเกี่ยวกับการเพิ่มทุนมนุษย์
โดยที่ประชุมเห็นชอบให้จัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท และอีกส่วนจะจัดสรรเพิ่มให้กับกองทุนเพื่อกู้ยืมเพื่อการศึกษา (ก.ย.ศ.) ซึ่งในส่วนของ ก.ย.ศ.จะอนุมัติเม็ดเงินในส่วนนี้ให้กับนักเรียน นักศึกษาในภาคเรียนต่อไปทำให้เม็ดเงินลงกระจายลงไปได้รวดเร็ว
ส่วนกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯนั้นเงินทุนจะนำไปใช้ในการดึงดูดการลงทุน ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เพื่อปรับโครงสร้างการผลิตในประเทศ
สำหรับรายการงบประมาณที่ขอจากกระทรวงมหาดไทยเพื่อจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นั้นที่ประชุมให้ความเห็นว่างบประมาณในส่วนนี้ไม่สามารถที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันในวันที่ 30 ก.ย.2568 และอาจมีการซ้ำซ้อนกับงบประมาณในปี 2569 ที่จะเริ่มออกมาใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2568 นี้ โดยให้กระทรวงมหาดไทยไปทบทวนโครงการและรอจัดสรรงบฯจากแหล่งงบประมาณอื่นๆต่อไป