มาตามนัด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ยืนยันว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี พรุ่งนี้ (22 ก.ค.)จะเสนอชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แทนนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งมา 5 ปีเต็มๆ และจะครบวาระในเดือนกันยายน 2568 ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ถึงแม้นายพิชัยจะไม่บอกว่าเป็นใครตามมารยาท แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าชื่อที่นายพิชัยจะเสนอคือนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน คนปัจจุบัน
ฝ่ามรสุม io ขวางนั่งเก้าอี้ผู้ว่าแบงค์ชาติ
หลังจากเหลือแคนดิเดท 2 ชื่อ คือ วิทัย กับ ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน แบงค์ชาติ คนปัจจุบันซึ่งต่างฝ่ายต่างก็มีกองเชียร์เป็นของตัวเอง โดยกองเชียร์ก็มีทั้งเชียร์คนที่ชอบแบบเปิดเผยออกหน้าออกตา และวิพากษ์วิจารณ์คนที่เป็นคู่แข่งของคนในดวงใจออกสื่ออย่างเปิดเผย แต่ที่เป็นประเด็นคือปฏิบัติการ IO (Information Operation) ที่โจมตีนายวิทัย ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียแบบรัวๆ โดยเนื้อหาของการโจมตีเน้นไปที่การกล่าวหาว่านายวิทัย "เป็นคนของพรรคการเมืองส่งมา"
วิทัย เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญยุค "ลุงตู่"
ปี 2558-2559 วิทัย ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ดูแลกลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการรัฐประหาร จากนั้นปี 2559-2561 ขยับไปดูแลกลุ่มลงทุน-บริหารหารเงิน ในระหว่างนั้นปี 2560-2561 ได้รับมอบหมายให้ไปนั่งรักษาการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ปี 2561-2563 ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)จากนั้นกลับมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน วาระแรกปี
2563-2567 ในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนจะได้ต่อวาระที่ 2 ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
"วิรไท-เศรษฐพุฒิ" ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลลุงตู่
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าแบงค์ชาติคนที่ 20 ก็ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งปี 2558-2563 ถัดมาคือนายเศรษฐพุฒิ ดำรงตำแหน่งปี 2563 ถึงปัจจุบัน ก็ได้รับการแต่งตั้งในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นเดียวกัน แต่ทั้งสองท่านนั้นโชคดีกว่า วิทัย เพราะไม่มีปฏิบัติการ io ถล่มว่าเป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคที่ลุงตู่ สังกัดในขณะนั้น
ทำไมถึงต้องมีปฏิบัติการ io เตะตัดขาวิทัย
แน่นอนว่าธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกุมนโยบายการเงินของประเทศ และต้องเป็นอิสระจากรัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ถือปฏิบัติกันทั่วโลก ประกอบกับความแข็งแกร่งของโครงสร้างภายในแบงค์ชาติ ก็ไม่ได้เปิดกว้างที่จะให้คนนอกเข้ามาได้ง่ายๆ ถึงแม้จะนับย้อนหลังไปไม่ว่าจะเป็นเศรษฐพุฒิ วิรไท ดร.ประสาร ไตรรัตน์สรกุล ล้วนแต่เป็นคนนอกทั้งสิ้น แต่กรณีของวิทัย ประเด็นปัญหามาจากการแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหา ที่จะไม่ยึดมั่นอยู่เฉพาะกรอบอัตราเงินเฟ้อเท่านั้น แต่จะนำสภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศมาพิจารณาประกอบเพื่อกำหนดเป็นนโยบายการเงิน
แนวโน้มนโยบายดอกเบี้ยส่งผลกระทบกับธุรกิจใหญ่
วิสัยทัศน์ของวิทัยคือสัญญาณว่าจะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยายที่ยึดโยงกับภาวะเศรษฐกิจด้วย แน่นอนว่าแนวทางแบบนี้จะส่งผลกระทบกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่เคยได้รับประโยชน์จากนโยบายดอกเบี้ยแบบที่ยึดติดกับอัตราเงินเฟ้อ ต้องไม่พอใจข่าวการมานั่งในตำแหน่งผู้ว่าแบงค์ชาติของนายวิทัยอย่างแน่นอน