พพ.ยัน พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ยกระดับพลังงานสะอาดของประเทศ ไม่ใช่การรวบอำนาจ ลิดรอนสิทธิ์ใคร เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนและผู้ประกอบการในการติดตั้ง
นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ พพ.ได้เปิดรับฟัง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จนสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้สนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมากพอสมควร ซึ่งผมในนาม พพ.ขอขอบคุณในทุกๆความคิดเห็นและจะมีการนำความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์มาใช้ในการปรับแก้ในสาระสำคัญต่อไป
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ที่จะกำหนดให้ พพ.ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการกำกับดูแลเรื่องการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบ one stop service เพื่ออำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการติดตั้งและใช้โซลาร์เซลล์ของประชาชนและผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตพลังงานใช้เอง (Self -consumption) รองรับการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืนในระยะยาว และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางเช่นกัน
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฉบับดังกล่าว ยังมุ่งการกำกับดูแลมาตรฐานอุปกรณ์การติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมไปถึงระบบโครงข่ายไฟฟ้าส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดภายในประเทศ เกิดความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมกระตุ้นให้การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีความแพร่หลาย ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีสะอาดของภาคประชาชน เป็นการรวมหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยระบบโซลาร์เซลล์ โดยเฉพาะการผลิตใช้เองในระดับครัวเรือนและประกอบกิจการให้อยู่ในกฎหมายฉบับเดียว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าก่อนหน้านี้ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว จะมีผู้เข้าใจผิดว่าเป็นกฎหมายรวบอำนาจ ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น หรือเป็นการลิดรอนสิทธิ์ผู้ต้องการติดตั้ง ซึ่งผมขอชี้แจ้งว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดอาทิในประเด็นคลาดเคลื่อน เช่น “รวบอำนาจ” นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากมีการเปลี่ยนจากระบบ “ขออนุญาต” เป็น “ระบบแจ้งและรับรองตนเอง”
ส่วนการกำหนดนิยาม “อุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์” หรือ “สถานที่ติดตั้ง” ก็เป็นไปเพื่อให้เกิดความชัดเจน ในการบังคับใช้กฎหมาย ป้องกันมิให้เกิดปัญหาในการตีความ รวมทั้งสามารถรองรับสิ่งอื่นที่อาจมีเพิ่มเติมในอนาคตได้
ขณะที่กรณีการขายไฟฟ้าภายในที่อยู่อาศัยนั้น โดยเฉพาะเรื่องราคานั้น ยังต้องอยู่ภายใต้กรอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบระบบพลังงานแสงอาทิตย์ในที่พักอาศัย เป็นเพียงการดำเนินการสนับสนุนการตรวจตราการติดตั้งให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ไม่ใช่การให้อำนาจเกินขอบเขตแต่อย่างใด โดยหลังจากพพ.จะนำความคิดเห็นที่ได้รับจากการเปิดรับฟังที่ผ่านมา นำมาพิจารณาปรับปรุงร่างพ.ร.บ. พร้อมทั้งหารือหน่วยงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการยกร่างเป็นกฎหมายตามระเบียบต่อไป