เกาะติดมาตรการดูแลราคาข้าวก่อนชงครม.ของบฤดูกาลใหม่ 68/69

เกาะติดมาตรการดูแลราคาข้าวก่อนชงครม.ของบฤดูกาลใหม่ 68/69
‘พาณิชย์’ ลงพื้นที่เชียงราย ติดตามสถานการณ์ข้าวและโครงการชดเชยดอกเบี้ยผู้ค้าข้าว เสริมกลไกตลาด-เพิ่มสภาพคล่องก่อนจัดทำข้อเสนอของบรับฤดูกาลผลิตใหม่

 

น.ส.ญาณี ศรีมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อติดตามสถานการณ์ข้าวและความคืบหน้าการดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมเก็บสต็อกข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 โดยได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ตรวจเยี่ยมบริษัท โรงสีกำพล จำกัด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งถือเป็นการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จริงและรวบรวมข้อมูลการดำเนินโครงการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาเสนอแนวทางต่อคณะรัฐมนตรี สำหรับโครงการในปีการผลิตถัดไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในเดือนหน้า

สำหรับโครงการชดเชยดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้นโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเสริมกลไกตลาด เพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวในตลาด เพื่อให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายข้าวได้ในราคาที่เป็นธรรม โดยกรมฯ ได้สนับสนุนดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม ผ่านธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐ ด้วยอัตราชดเชยร้อยละ 3 ต่อปี ตามระยะเวลาการเก็บสต็อก 60–180 วัน ภายใต้วงเงินรวม 585 ล้านบาท ระยะเวลารับซื้อข้าวตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ 29 พ.ย. 67 - 31 มี.ค. 68 (ภาคใต้ 1 ม.ค. - 30 มิ.ย. 68)

อย่างไรก็ตามปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการรวม 205 ราย จาก 45 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีปริมาณข้าวเปลือกสะสมสูงสุดในเดือนธันวาคม 2567 ที่ 2.285 ล้านตัน ในจังหวัดเชียงรายมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 4 ราย โดยโรงสีกำพลฯ ยังคงมีข้าวหอมมะลิทั้งในรูปแบบข้าวเปลือกและข้าวสารในคลัง

ด้านผู้ประกอบการโรงสีกำพลฯ กล่าวว่า ช่วงต้นฤดูกาลเป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดพร้อมกัน ทำให้ราคามีแนวโน้มลดลง การมีโครงการชดเชยดอกเบี้ยจึงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเก็บสต็อกข้าวไว้ได้โดยไม่ต้องรีบขายออก ส่งผลให้เกษตรกรสามารถขายข้าวได้ในราคาที่เหมาะสมมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดแรงกดดันในตลาดและรักษาเสถียรภาพโดยรวม ขณะเดียวกัน มีคณะทำงานระดับจังหวัดที่รับผิดชอบตรวจสอบสต็อกข้าวของผู้ประกอบการทุกเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และครอบคลุมมูลค่าตั๋วสัญญาใช้เงินตามโครงการ

“ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง ซึ่งมีการเก็บเกี่ยวไปแล้วมากกว่าร้อยละ 89 ของผลผลิตทั้งหมด แม้ราคาข้าวในตลาดโลกจะมีความผันผวน โดยเฉพาะหลังจากที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าว ส่งผลให้ราคาข้าวขาวในตลาดโลกลดลง แต่สถานการณ์ราคาข้าวในประเทศยังคงอยู่ในระดับทรงตัวและมีแนวโน้มดีขึ้น โดยจากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 พบว่า ราคาข้าวเปลือกยังใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้านาปรังเกี่ยวสด (ความชื้น 25%) ราคา 6,500–6,800 บาทต่อตัน ข้าวเจ้าแห้ง (ความชื้น 15%) 7,600–8,000 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวนาปรังสด (ความชื้น 25%) 9,400–10,200 บาทต่อตัน และข้าวเหนียวแห้ง (ความชื้น 15%) 11,000–12,000 บาทต่อตัน”

ทั้งนี้กรมฯ จะยังคงติดตามสถานการณ์ข้าวอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งดำเนินมาตรการที่เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดข้าวไทย และส่งเสริมรายได้ที่เป็นธรรมแก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน

TAGS: #ข้าว #โครงการชดเชยดอกเบี้ยผู้ค้าข้าว