เพอร์เฟค แผนไตรมาส 2 เจาะเซนทิเมนต์ผู้บริโภคมองหาแนวราบ จัดพอร์ตบ้านนวัตกรรมญี่ปุ่นทนแผ่นดินไหว-พร้อมอยู่ที่ปรับเปลี่ยนได้ รุกหนักตลาดอสังหาฯ สู่เป้าขาย 3 พันล.
วสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าบริษัทฯ วางแนวทางการทำตลาดสินค้าอสังหาฯในไตรมาส2 ปีนี้ ให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับบรรยากาศภาพรวมกำลังซื้อผู้บริโภค ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และส่งผลกระทบถึงกรุงเทพฯ ไปเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
“บริษัทฯ จะมุ่งกระตุ้นยอดขายจากโครงการแนวราบ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท และไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้าจะมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบมากขึ้น” วสันต์ กล่าวพร้อมเสริมว่า
“ยังมีปัจจัยหลังจากมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 68 นี้ ที่เข้ามาสนับสนุนพร้อมช่วยขยายฐานลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้อีกทางหนึ่ง”
โดยบริษัทฯ จะเน้นการตลาดเชิงรุกกับโครงการบ้านระดับไฮเอนด์ที่ยังคงมีกำลังซื้อสูงในปัจจุบัน เพื่อให้ได้ยอดขายจากโครงการในกลุ่ม (Segment) ระดับบนราว 1,500 ล้านบาท ประกอบด้วย
- โครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ ที่เตรียมเปิดบ้านตัวอย่างรุ่นใหม่ในทำเล กรุงเทพกรีฑา โครงการเลค เลเจ้นด์ บางนา-สุวรรณภูมิ และ แจ้งวัฒนะ
- โครงการคฤหาสน์ริมทะเลสาบ และ โครงการวิลล่าตากอากาศ เบลล่า เดล มอนเต้ เขาใหญ่ วางเป้าหมายปิดการขายเฟส 1 พร้อมเปิดตัวพูลวิลล่าเฟส 2 ภายในไตรมาส 2
- โครงการบ้านหรู ‘ซิกเนเจอร์’ ในทำเล กรุงเทพกรีฑา รามคำแหง และสุขุมวิท 77 ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับเซกิซุย เคมิคอล ประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นบ้านที่นำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากญี่ปุ่นมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ อาทิ
- ระบบกรองอากาศ ป้องกันฝุ่น
- ระบบกันความร้อน ปรับอุณหภูมิให้บ้านเย็นสบาย
- ระบบผนังป้องกันเสียง
“จุดเด่นสำคัญ โครงการเดอะซิกเนเจอร์ คือ เป็นบ้านที่ใช้โครงสร้างเหล็กที่ทนทานต่อแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น” วสันต์ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมปล่อยแคมเปญบ้านพร้อมอยู่รูปแบบใหม่ “สวยเลือกได้” รองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านพร้อมเข้าอยู่ แต่ยังต้องการปรับเปลี่ยนวัสดุบางอย่างให้ตรงตามไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนวัสดุ ตลอดจนสีตัวบ้าน และรูปแบบสวน และเข้าอยู่ได้ภายใน 3 เดือน รวม 25 โครงการ ทั้งในทำเลแจ้งวัฒนะ รามคำแหง กรุงเทพกรีฑา สุขุมวิท 77 ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ รังสิต โดยคาดว่าจะสร้างยอดขายได้ 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
- โครงการเพอร์เฟค เพลส
- เพอร์เฟค พาร์ค
- โมดิ วิลล่า
นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดเฟส 2 ของ “มาร์เก็ต อเวนิว แจ้งวัฒนะ–ราชพฤกษ์” โครงการอาคารพาณิชย์บนถนนหอการค้าไทย รับการเติบโตของทำเล จากการขยายถนนชัยพฤกษ์ด้านหน้าโครงการเป็น 10 เลน ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์
วสันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับพอร์ตสินค้าคอนโดมิเนียม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา โครงการของบริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก อย่างไรก็ดีบริษัทมีการตรวจสอบความปลอดภัยของทุกอาคารตั้งแต่วันแรกหลังเหตุการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
โดยโครงการส่วนใหญ่ หรือ จำนวน 23 โครงการ รวม 17,100 ยูนิต เป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จอยู่ระหว่างเปิดขายทั้งหมด 7 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 4 โครงการ ซึ่งบริษัทมีแผนเร่งผลักดันยอดขายโครงการอยู่รวยคอนโด และ ไอคอนโด พัฒนาการ ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise ในระดับราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ที่ยังมีความน่าสนใจและยังเป็นที่ต้องการ เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัท โดยวางเป้าขายโครงการคอนโดมิเนียมในไตรมาส 2 ไว้ที่ 400 ล้านบาท
จากแผนดังกล่าว บริษัทฯ วางเป้าหมายยอดขายจากโครงการแนวราบในสิ้นไตรมาส2 ปีนี้ อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท