แกรนด์ แอสเสทฯ บริหารเสี่ยงธุรกิจปี68 มุ่งรายได้จากธุรกิจโรงแรมรับเที่ยวฟื้น หลัง ROH ได้ผู้ถือหุ้นใหม่ 6 ราย พร้อมปรับแผนทำคอนโดไฮบริดพร้อมขาย/เช่ายาว 30 ปี หนุนเป้าสู่ 5 พันล.
วิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 ว่า บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้รวมของปีนี้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
- รายได้จากธุรกิจโรงแรม 2,500 ล้านบาท
- รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,500 ล้านบาท
โดย หลังจากได้ขายโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของธุรกิจโรงแรม จะมีรายได้จากโรงแรม 4 แห่ง ได้แก่
- รอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ
- เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท
- เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา
- เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า
ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รายได้มาจาก 4 โครงการ ได้แก่
- ไฮด์ สุขุมวิท 11
- ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ
- อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง
- ริเวอร์ เบย์ เจริญนคร คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
สำหรับ ธุรกิจโรงแรมปีนี้ รายได้หลักจะมาจากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมา มีรายได้ 1,034 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้
โดยปีนี้วางเป้ารายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท เฉพาะไตรมาสแรกปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ 360 ล้านบาท เกินกว่าเป้าที่วางไว้ หรือเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน เป็นผลมาจากการปรับปรุงพื้นที่ห้องประชุมสัมมนา ให้เป็นพื้นที่จัดงานที่ครบครันด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในบรรยากาศวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรองรับความต้องการของกลุ่ม MICE จากต่างประเทศ รวมถึงการปรับปรุงเปลี่ยนโฉมร้านอาหารและบาร์ “สยามยอชท์คลับ” ทำให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึงกว่า 30% ในช่วงไตรมาสแรกของปี ทั้งสองส่วนบริการนี้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเพิ่มรายได้ให้กับโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ อย่างต่อเนื่องในปีนี้
“นอกจากนี้ บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังจะเร่งดำเนินการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ครบถ้วน จากที่แกรนด์ แอสเสทฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 97% โดยขณะนี้มีผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนรวม 6 ราย เป็นนักลงทุนต่างชาติ 3 ราย และบริษัทไทยอีก 3 ราย ซึ่งจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาในปลายเดือนนี้” วิทวัส กล่าว
โดยในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจะมีการปรับแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ เป็นอสังหาริมทรัพย์รูปแบบไฮบริด คือจะมีทั้งห้องชุดเพื่อขาย และห้องชุดให้เช่าเป็นระยะเวลา 30 ปีขึ้นไป ในโครงการ
- ไฮด์ สุขุมวิท 11 คอนโดมิเนียมใกล้สถานีบีทีเอส นานา
- ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมหรูใกล้สถานีบีทีเอส ทองหล่อ โครงการร่วมทุนกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของวงการ ที่มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมในรูปแบบไฮบริดดังกล่าวให้กับนักลงทุนต่างชาติ
วิทวัส กล่าวว่า “บริษัทยังมีแนวทางในการลดภาระหนี้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนด ซึ่งปีที่ผ่านมา มีการคืนหุ้นกู้ไปแล้ว 4,800 ล้านบาท และปีนี้มีแผนคืนหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดรวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการดำเนินธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการ และจากเงินร่วมลงทุนในโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ”