คลัง-อุตสาหกรรมเดินหน้าหนุนเอสเอ็มอีปรับตัวยุคเปลี่ยนผ่านธุรกิจใหม่

คลัง-อุตสาหกรรมเดินหน้าหนุนเอสเอ็มอีปรับตัวยุคเปลี่ยนผ่านธุรกิจใหม่
SME D Bank เตรียมอัดฉีดสินเชื่อพิเศษ  30,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3%ต่อปี ตั้งเป้าพาถึงแหล่งทุนและยกระดับได้กว่า 14,000 กิจการ   กระตุ้นเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 160,000  ล้านบาท 

นายเอกนัฏ  พร้อมพันธุ์  รมว.อุตสาหกรรม   กล่าวปาฐกถาพิเศษ ถึง นโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีจากรัฐบาล ในงานจัดกิจกรรมถ่ายทอดนโยบายการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยในปี 2568 ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานทั้งองค์กรกว่า 2,000 คน จัดโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ว่า

ปัจจุบัน ภาคอุตสาหกรรมไทย และเอสเอ็มอีไทย กำลังเผชิญความเสี่ยงและความผันผวนจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งภายในและภายนอกประเทศ  รวมถึงภาวะโลกรวน  ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จึงมุ่งขับเคลื่อนให้ภาคอุตสาหกรรมก้าวสู่อุตสาหกรรมสีเขียว

ตลอดจนส่งเสริมและเชื่อมโยงเอสเอ็มอีใน Supply Chain ก้าวสู่ธุรกิจสีเขียว ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ดีต่อธุรกิจ และดีต่อโลก นำไปสู่ความยั่งยืน  ซึ่งมีแนวทางสำคัญ ได้แก่ 1.การขับเคลื่อนส่งเสริมอุตสาหกรรมมุ่งสู่กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV)   พร้อมสนับสนุนให้ใช้พลังงานสะอาด  อีกทั้ง ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมดำเนินธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  2. เตรียมความพร้อมสู่ตลาดยุคใหม่ให้กับภาคอุตสาหกรรมและเอสเอ็มอี เพื่อให้สามารถปรับตัวรองรับการกีดกันทางการค้า รวมถึงกฎหมาย และกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดการภาวะโลกร้อน พร้อมสนับสนุนการทำ Carbon Footprint of Product และ Carbon Footprint of Organization

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  และ 3. สนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อยกระดับธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ผ่านการให้สินเชื่อยกระดับปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมสีเขียว 

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล  รมช.คลัง กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ขณะเดียวกันปัญหา "หนี้" ในระบบเศรษฐกิจไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน  เป็นตัวฉุดให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้เป็นไปได้อย่างล่าช้า  รวมถึง ปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ใช้บริการทางการเงินด้วย ปัจจัยเหล่านี้  ล้วนมีส่วนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ยาก 

ทั้งนี้ SME D Bank สถาบันการเงินของรัฐ จึงมีบทบาทสำคัญที่ต้องเข้ามารับภาระเคียงข้างช่วยเหลือเอสเอ็มอี ด้วยการสร้างมิติใหม่ในการทำงานที่ต้อง "เข้าใจ" ยึดตัวผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นศูนย์กลาง เข้าใจถึงสถานการณ์ และปัจจัยแวดล้อม เพื่อจะตอบสนองความต้องการได้อย่างถูกต้อง รวมถึง "เข้าถึง" พัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน ช่วยให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกและทันสมัย  และ "พัฒนา" สนับสนุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน   ปรับตัวทางธุรกิจให้อยู่รอดและยืนหยัดเดินหน้าต่อไปได้   เมื่อเอสเอ็มอีเข้มแข็ง  จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศตามไปด้วย

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ SME D Bank กล่าวว่า ธนาคารพร้อมขานรับนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลัง ที่ต้องการสนับสนุนให้เอสเอ็มอีเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยในปี 2568 นี้  SME D Bank ยังคงยึดมั่นนโยบายหลักของการเป็นธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทยที่พร้อมจะสนับสนุน “ด้านการเงิน” ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อวงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาทต่อราย ควบคู่กับ “ด้านการพัฒนา” โดยสิ่งที่เพิ่มเติม คือ ลงลึกในรายละเอียดของบริการทั้ง 2 ด้าน ที่ต้องการจะสนับสนุนเอสเอ็มอีให้ยกระดับปรับเปลี่ยนธุรกิจ มีศักยภาพเพิ่มขึ้น พร้อมก้าวสู่ธุรกิจยุคใหม่ ที่สอดคล้องแนวโน้มเทรนด์ธุรกิจของโลกในปัจจุบันและอนาคต

ดังนั้น ผลิตภัณฑ์สินเชื่อหรือบริการพัฒนาจะมุ่งตอบโจทย์ให้ธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  รวมถึง มุ่งสนับสนุนธุรกิจในกลุ่มเป้าหมายของประเทศ เช่น ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง  ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม  ธุรกิจเกษตรแปรรูป  ธุรกิจยานยนต์ และยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ เป็นต้น  

อย่างไรก็ตามเพื่อจะสนับสนุนให้เอสเอ็มอี สามารถปรับตัวเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างราบรื่น ธนาคารจัดเตรียมบริการด้านเงินทุนและด้านการพัฒนาไว้พร้อมแล้ว สำหรับด้านการเงิน ผ่านโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึง สอดคล้องกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ  โดยมีจุดเด่นอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี  คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน  ได้แก่

1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” สำหรับสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการติดตั้งระบบอุปกรณ์ ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เครื่องจักร อุปกรณ์ เพื่อใช้พลังงานสะอาด และมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เช่น ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในอุตสาหกรรมผลิตหรือบริการสีเขียว โรงงาน ร้านอาหาร โรงแรม เพื่อช่วยลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว หรือมีกระบวนการผลิตหรือเทคโนโลยีเชื่อมโยงไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท  

2.สินเชื่อ "ปลุกพลัง SME"   สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็กที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท นำไปใช้ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมถึง หมุนเวียน และเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ เช่น ร้านโชห่วย/ขายปลีก  ร้านอาหาร ธุรกิจดิจิทัล/อิเล็กทรอนิกส์  ร้านขายยา และแฟรนไชส์รายย่อย เป็นต้น วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท และ 3.สินเชื่อ "Beyond ติดปีก SME"   สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป นำไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ปรับเปลี่ยนทรัพย์สินหรือเครื่องจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ เช่น เกษตรแปรรูป อาหารเพื่อสุขภาพ โรงแรมที่พัก/ร้านอาหารขนาดใหญ่  ธุรกิจนำเข้าติดตั้งเครื่องจักร  ธุรกิจบริการดิจิทัล/อิเล็กทรอนิกส์ แฟรนไชส์  เป็นต้น วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท

ส่วนด้านการพัฒนา พร้อมให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ซึ่งธนาคารเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2567 ที่ผ่านมา และมีการพัฒนามาต่อเนื่อง สามารถตอบโจทย์ยกระดับธุรกิจครบวงจร โดยปีนี้ (2568) จะต่อยอดการพัฒนาในหลักสูตรเชิงลึก ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรมากกว่า 50 แห่งที่เข้ามาเชื่อมโยงการสนับสนุน  ผู้ประกอบการสามารถใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ  เช่น Business Health Check ระบบตรวจประเมินสุขภาพธุรกิจ , E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ  , SME D Coach ที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจจากโค้ชมืออาชีพ และ Privilege สิทธิประโยชน์เพื่อยกระดับธุรกิจ เป็นต้น

นอกจากนั้น ยังมีโครงการและกิจกรรมการพัฒนาที่ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชนต่อเนื่องตลอดทั้งปี  มุ่งเติมความรู้เชิงลึก และให้คำปรึกษา  มอบเครื่องมือ เพื่อผลักดันให้สามารถยกระดับสู่อุตสาหกรรมสีเขียวอย่างแท้จริง  รวมถึง เพิ่มรายได้ และขยายตลาด 

นายพิชิต กล่าวว่า การสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนที่มีสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ และการพัฒนา  จะมีส่วนสำคัญผลักดันให้เอสเอ็มอียกระดับเพิ่มศักยภาพ  สร้างการเติบโตทางธุรกิจ เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ ในทุกพื้นที่    ตั้งเป้าปีนี้ (2568) สนับสนุนเข้าถึงแหล่งทุนและยกระดับธุรกิจได้กว่า 14,000 กิจการ  รักษาการจ้างงานได้ประมาณ 198,000 คน และสร้างเงินลงทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 160,000 ล้านบาท 

TAGS: #SME #D #Bank #เอสเอ็มอี