จับสัญญาณร้ายการคลังประเทศไทย ผ่านไปไตรมาสแรกปีงบ 2568 รายได้วูบ รายจ่ายพุ่ง กู้โปะขาดดุลก้อนโต

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ฐานะการเงินการคลังของประเทศไทย อยู่ในอาการไม่แข็งแรง อ่อนแออย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่โตได้ต่ำกว่าศักยภาพมายาวนายหลายปีจนนิ้วมือนับไม่พอ

ยิ่งมีการประเมินกันว่า เศรษฐกิจไทยปีที่ผ่านมา และปีนี้ จะขยายตัวได้ไม่ถึง 3% ยิ่งทำให้ฐานะการคลังของประเทศวิกฤตเพิ่มขึ้นไปอีก

เมื่อไปส่องดูการเก็บรายได้ของประเทศไทยไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2568 (ที่เริ่มนับจาก 1 ต.ค. 2567 ถึง 31 ธ.ค. 2568) พบว่า เก็บรายได้จำนวน 6.14 แสนล้านบาท แม้ว่าจะสูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนเก็บได้ต่ำกว่า 8.8 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าผลงานปีนี้ดีสู้ปีที่แล้วไม่ได้ เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาเสียเลย

เมื่อลงไปดูรายกรมกอง จะพบว่า มีแค่กรมสรรพากรเท่านั้นที่เก็บได้เกินเป้าหมายอยู่ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนกรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้าหมายแห่งละ 1 พันกว่าล้านบาท ส่วนรัฐวิสาหกิจส่งรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า เป็นเพราะมีการส่งรายได้เหลื่อมปี ทำให้ต่ำกว่าเป้าหมาย

ยิ่งลงไปดูฐานะการคลังที่เป็นแบบกระแสเงินสดที่กระทรวงการคลัง รายงานไว้ในใตรมาสแรกปี 2568 ประเทศมีรายได้แค่ 6.12 แสนล้านบาท แต่มีรายจ่ายถึง 1.26 ล้านล้านบาท มากกว่ารายได้ถึงเท่าตัว ทำให้ประเทศขาดดุลงบประมาณเงิน 6.49 แสนล้านบาท

ส่งผลให้ต้องกู้ชดเชยโปะขาดดุลถึง 4.12 แสนล้านบาท และดึงเงินคงคลังมาโปะอีก 2.14 แสนล้านบาท ทำให้เงินคงคลังที่มีอยู่ 5 แสนล้านบาท แค่ไตรมาสเดียวเหลือแค่ 3 แสนล้านบาท

สัญญาณที่ไม่ดีดังกล่าว ส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศไทยอยู่ในวิกฤต รายได้เก็บไม่ฝืดส่อไม่เข้าเป้าหมาย แต่รายจ่ายยังต้องใช้เต็มอัตราพุ่งสูง ต้องเร่งกู้ชดเชยขาดดุล และใช้เงินคงคลังมาโปะให้ฐานะการคลังของประเทศไม่ถึงแตก

ตอนนี้ต้องลุ้นกันว่า อีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลจะเอาฐานะการคลังของประเทศอยู่ไหม จะสามารถปิดหีบงบประมาณ 2568 ได้สำเร็จหรือไม่