ส่องแผน PDP ใหม่ อัดพลังงานทดแทน 51% ชี้ค่าไฟไม่เกิน 4บาท

ส่องแผน PDP ใหม่ อัดพลังงานทดแทน 51% ชี้ค่าไฟไม่เกิน 4บาท
สนพ.เร่งเครื่องคลอดแผนพลังงาน เปิดรับฟังความเห็น PDP 2024 และแผนก๊าซฯ 12-13 มิ.ย. นี้  ชี้เพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนเป็น 51% โซลาร์เซลล์มากสุด 2 หมื่นเมกะวัตต์

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเปิดรับฟังความเห็นแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 ( PDP 2024 ) และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ( Gas Plan) โดยจะเปิดเวทีรับฟังความเห็นในวันที่ 12-13 ม.ค. 2567 และเปิดรับฟังความเห็นผ่านทางระบบออนไลน์ของเว็บไซต์ www.eppo.go.th และเฟสบุ๊ค EPPO Thailand ในวันที่ 17 มิ.ย. สำหรับภากลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และวันที่ 19 มิ.ย.ส่วนภาคใต้และภาคเหนือ

นอกจากนี้ในวันที่ 18 มิ.ย. 2567 จะเปิดรับฟังความเห็นแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ( AEDP) และแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) ส่วนแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil plan) จะเปิดรับฟังความเห็นปลายเดือน มิ.ย. 2567   โดยจะนำความเห็นทั้งหมดมาปรับปรุงในแต่ละแผน และนำรวมกันอยู่ภายใต้แผนหลักคือ แผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ,คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ คาดว่าแผนทั้งหมดจะเสร็จในเดือน ก.ย. 2567 นี้

สำหรับแผน PDP 2024  จะให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น คือ 1. ความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ (Security) 2.ต้นทุนค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม (Economy) และ 3.ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Ecology) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ที่อยู่ระหว่างการจัดทำอยู่

นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์ชี้วัดโอกาสเกิดไฟฟ้าดับ (LOLE) ต้องไม่เกิน 0.7 วันต่อปี หรือไม่เกิน 17 ชั่วโมง จาก 8,760 ชั่วโมง ซึ่งจากเดิมใช้เกณฑ์กำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin)

รวมทั้งยังกำหนดเป้าหมายของมาตรการเปลี่ยนแปลงพฤติกกรรมการใช้ไฟฟ้า (Demand response) 1,000 เมกะวัตต์ และมาตรการลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak)ตลอดจนมีโรงไฟฟ้าใหม่และเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำมาพิจารณา ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ รับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ โซลาร์ โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์บวกด้วยระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) มีพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) เป็นทางเลือก

นายวีรพัฒน์  กล่าวว่า ในช่วงปลายแผนปี 2580 คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า จะสูงถึง 5.5 - 5.6 หมื่นเมกะวัตต์ จากแผนเดิม 3.6 หมื่นเมกะวัตต์  ดังนั้นการผลิตไฟฟ้าใหม่จะต้องเพิ่มขึ้น โดยจะพิจราณาเป็นรายภาค โดยเฉพาะภาคใต้ และภาคเหนือ ที่ยังมีไฟฟ้าไม่เพียงพอความต้องการใช้  ซึ่งการกำหนดสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกลง 30-40% ในปี 2573 และเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี 2593

ทั้งนี้จะมุ่งเน้นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้นเป็นสัดส่วน 51% จากแผนเดิม 36% ของปริมาณการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด โดยสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีมากที่สุดถึง 30% ของพลังงานทดแทนทั้งหมด หรือประมาณ 2 หมื่นเมกะวัตต์   ขณะเดียวกันจะมีการกำหนดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) ขนาด 600 เมกะวัตต์ และการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงผสมในก๊าซธรรมชาติ ในสัดส่วนการใช้ 5% ของการใช้ก๊าซฯ 

นอกจากนี้แผน PDP 2024 จะพยายามรักษาระดับราคาค่าไฟฟ้าไม่ให้เกิน 4 บาทต่อหน่วย  จากแผนPDP เดิม ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.66 บาทต่อหน่วย  เนื่องจากมีการกำหนดสัดส่วนผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงขึ้น

ส่วนแผนก๊าซธรรมชาตินั้น เบื้องต้นคาดว่าปริมาณการใช้ก๊าซฯ จะไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากความต้องการใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าจะปรับลดลงจากการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ขณะที่การใช้ก๊าซฯสำหรับยานยนต์ (NGV) ลดลง  โดยในอนาคตยังมีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว ( LNG) มาทดแทนความต้องการใช้ก๊าซฯ ที่มากขึ้นด้วย

 

TAGS: #สพน. #PDP2024 #โซลาร์เซลล์ #พลังงานทดแทน