‘นิโตริ’ เฟอร์นิเจอร์ญี่ปุ่นหลังจากเข้าตลาดไทยมา 6 เดือน ได้ไปต่อคนไทยให้การตอบรับดีลุยสาขาที่ 5 ‘สยาม ทาคาชิมายะ’ ไอคอนสยาม เจาะตลาดลูกค้าย่านชานเมืองกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี
ทาเคดะ มาซาโนริ รองประธานบริษัท บริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด กล่าวว่า ผู้ใหบริการธุรกิจร้านเฟอร์นิเจอร์สัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์‘นิโตริ’ (Nitori) เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทวางแผนเชิงรุกขยายธุรกิจร้านนิโตริ เปิดสาขาลำดับที่ 5 ห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ ณ ไอคอนสยาม เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นและกำลังซื้อผู้บริโภคในย่านเจริญนครและพื้นที่ใกล้เคียง หลังจากเข้ามาทำตลาดพร้อมเปิดสาขาแห่งแรกในประเทศไทย ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งได้การตอบรับจากกลุ่มลูกค้าคนไทย เป็นอย่างดี
สำหรับร้านนิโตริ สาขาใหม่ในไทยดังกล่าว วางแนวคิดเพื่อสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านรูปแบบใหม่ๆ แก่กลุ่มผู้บริโภค ผ่านการจัดโซนแสดงสินค้าในรูปแบบห้องตัวอย่าง การตกแต่งภายในร้านที่สบายตาด้วยโทนสีขาว หรือการจัดวางสินค้าหน้าร้านแต่ละประเภทให้มีความหลากหลาย แบ่งหมวดหมู่ชัดเจน พร้อมสร้างความโดดเด่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในบ้านอย่างลงตัว เพื่อยกระดับสู่การเป็นผู้นำสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจรในอนาคต
“เรามองว่าสยาม ทาคาชิมายะ เป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นที่เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของฝั่งธนบุรี โดยเปิดให้บริการสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงยังอยู่ในย่านชุมชนขนาดใหญ่ มีความสะดวกสบายในการเดินทาง การเดินทางสะดวกสบาย ตลอดจนผู้บริโภคในพื้นที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อ จึงถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของนิโตริ กรุ๊ปในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร” ทาเคดะ กล่าว
โดยคาดว่า นิโตริ สาขาที่ 5 จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับสาขาอื่นๆ เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนช่วยขยายฐานลูกค้าในวงกว้าง พร้อมสร้างความหลากหลายในการใช้ชีวิตของผู้คน ผ่านการนำเสนอสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ให้แก่ลูกค้าที่มาเยือนห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ ไอคอนสยามในอนาคต
ทาเคดะ กล่าวต่อว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นิโตริ กรุ๊ป ได้บริหารงานภายใต้โมเดลธุรกิจจัดการทุกกระบวนการด้วยตนเองอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผลิตการขนส่ง และการจัดจำหน่าย โดยมีแบรนด์สินค้าในเครือฯ มากมาย อาทิ แบรนด์ NITORI ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และโฮมแฟชั่น แบรนด์ DECO HOME สินค้าโฮมแฟชั่นยอดนิยมที่เน้นของใช้ในชีวิตประจำวัน, SHIMACHU โฮมเซ็นเตอร์ที่จำหน่ายครอบคลุมถึงอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกอาคาร และ N+ แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน เป็นต้น
โดย นิโตริ กรุ๊ป วางแผนเปิดร้านนิโตริทั่วเอเชียเพิ่มเติมให้ได้ถึง 3,000 สาขา เพื่อรองรับการเติบโตของชุมชนและสังคมในพื้นที่ต่างๆ พร้อมผลักดันยอดขายให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ราว 720,000 ล้านบาท (ประมาณ 3 ล้านล้านเยน) ภายในปี 2032 โดยคาดการณ์ว่าตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดรับกับทิศทางตลาดโดยรวม การสานต่อพันธกิจ ตลอดจนวิสัยทัศน์ของบริษัทได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับการเร่งขยายเครือข่ายสาขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญของนิโนติ กรุ๊ป โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2567) ร้านนิโตริมีสาขาทั่วภูมิภาคเอเชียทั้งหมด 993 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศญี่ปุ่น 817 สาขา และสาขาในต่างประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง เกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม จำนวน 176 สาขา ซึ่งจะเพิ่มเป็น 1,001 สาขาในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 นี้
พร้อมวางแผนที่จะเปิดตัวสาขาแรกในประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอินเดียในลำดับต่อไป หลังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประเทศต่างๆ ที่ไปเปิดตัวสาขาเมื่อปี 2565-2566 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาใหม่ให้ครอบคลุมทั่วเอเชียมากขึ้นอีก 100 สาขา ภายในเดือนมีนาคม 2068 และคาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป นิโตริ กรุ๊ปจะทำการเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศให้ได้ปีละประมาณ 200 แห่ง
ด้าน อัตสึชิ โอะคูโมริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ทาคาชิมายะ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างนิโตริ กรุ๊ป ในการเปิดร้านนิโตริ สาขาสยาม ทาคาชิมายะณ ไอคอนสยาม เพื่อตอกย้ำความเป็นห้างญี่ปุ่นขนานแท้แห่งเดียวในไทย ที่มีสินค้าญี่ปุ่นครบครัน และการได้รับบริการในแบบฉบับญี่ปุ่น และจะช่วยเพิ่มยอดการจับจ่ายให้กับห้างฯ ได้อีกทางหนึ่ง
โดยการเปิดตัวสาขาใหม่ในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น มาเปิดให้บริการในพื้นที่ของห้างญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเชื่อว่าลูกค้าที่มาใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าสยาม ทาคาชิมายะ จะต้องตื่นตาไปกับสินค้าที่หลากหลายของร้านนิโตริ พร้อมได้รับสิทธิพิเศษที่ทางห้างฯ มอบให้ในช่วงเปิดร้าน
“การเปิดตัวของนิโตริจะช่วยสร้างสีสันและความคึกคักในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภคในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน” อัตสึชิ กล่าว