ส.อ.ท.ลุ้นรัฐกดค่าไฟฟ้าต่ำกว่า 4.20 บาท หลังราคาเชื้อเพลิงขาลง ค่าบาทอ่อนตัว จี้เร่งแก้ปัญหาต้นทุนพลังงานระยะยาว อย่าโยนภาระให้กฟผ.แบกหนี้ก้อนโต
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า หลังคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้ารอบเดือนม.ค.-เม.ย. 2567 โดยค่าไฟฟ้าทั่วไปจะอยู่ที่ไม่เกินหน่วยละ 4.20 บาท จากเดิมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ได้ประกาศค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)งวดม.ค.-เม.ย. 67 ปรับขึ้นทำให้ค่าไฟเฉลี่ยเป็น 4.68 บาท/หน่วย
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าไฟฟ้าปรับลดลงได้ คือ 1.ต้นทุนพลังงานปัจจุบันทั้งน้ำมันดิบที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญในต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ได้ปรับลดลงจากสมมติฐานเดิมที่กกพ.กำหนดไว้ 2. มีค่าปรับจากปตท.อีก 4,300 ล้านบาทมาช่วย
3.ราคา LNG นำเข้า ก็ลดลงจากสมมุติฐาน ของ กกพ. 4.ค่าเงินบาทที่ไม่ได้อ่อนตัวลงเอกชนมองว่าภาครัฐสามารถบริหารค่าไฟต่ำกว่า 4.20 บาท/หน่วยได้อย่างแน่นอนและมีโอกาสเห็นที่ไม่เกิน 4.10 บาท/หน่วย
“มองราคาที่สมเหตุสมผลด้วยการใช้กลไกที่มีอยู่ โดยแก้ที่ต้นเหตุให้มากที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในประเทศที่กำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง และ ต่างประเทศรวมทั้งไม่เป็นภาระของผู้บริโภคมากจนเกินไป ดังนั้น ครม . มีหน้าที่ให้นโยบายเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องไปกำกับดูแลค่าไฟให้ดีที่สุดส่วนเอกชนมีหน้าที่สะท้อนความเห็นในฐานะทั้งนักลงทุน / นักธุรกิจและ ในหมวกของประชาชน”นายอิศเรศกล่าว
ทั้งนี้ที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ได้แบกรับภาระต้นทุนเชื้อเพลิงจนหลังแอ่นแล้วทั้งที่มีส่วนแบ่งไฟฟ้าจากการผลิตเพียง 30% รัฐบาลควรต้องหาทางออกในการแก้ต้นเหตุให้มากที่สุดและครั้งนี้จะเห็นว่ามีปตท. เข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบมากขึ้นและว่าไปตามเหตุ และ ผล ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อภาพรวม