พีระพันธุ์ หารือ เอกอัครราชทูตซาอุดีฯ สานต่อความร่วมมือด้านพลังงาน

พีระพันธุ์ หารือ เอกอัครราชทูตซาอุดีฯ สานต่อความร่วมมือด้านพลังงาน
รองนายกฯ พีระพันธุ์ หารือ เอกอัครราชทูตซาอุดีฯ สานต่อความร่วมมือด้านพลังงาน ผลักดันการค้าและการลงทุนที่มีศักยภาพร่วมกัน

นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลอะซีซ อัลซุฮัยบานี (H.E. Mr. Abdulrahman Abdulaziz Alsuhaibani) เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีฯ ยินดีที่ได้พบเอกอัครราชทูตฯ ในวันนี้ ยินดีต่อความสัมพันธ์ของไทย – ซาอุดีฯ ที่ดำเนินไปได้ด้วยดีและราบรื่น พร้อมขอถวายพระพรชัยมงคลไปยัง เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะพัฒนาไปอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นต่อไป ผ่านการริเริ่มความร่วมมือรูปแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะด้านพลังงานและการค้าการลงทุน เพื่อผลักดันศักยภาพที่มีระหว่างกัน สร้างความร่วมมือให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วย

ด้านเอกอัครราชทูตฯ ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสหารือในวันนี้ โดยแสดงความพร้อมในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้กลับมาสู่สภาวะปกติแล้ว ซึ่งภายหลังการเสด็จเยือนประเทศไทยของมกุฎราชกุมารฯ เมื่อปี 2565 ความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศมีความเจริญก้าวหน้า โดยเฉพาะด้านพลังงานที่ซาอุดีฯ ยินดีที่จะร่วมมือกับไทยอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบาย Vision 2030 ของซาอุดีฯ ซึ่งลดการพึ่งพาน้ำมันและมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจใหม่

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้

ด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าไทยและซาอุดีฯ มีศักยภาพที่สามารถร่วมมือกันได้ โดยเฉพาะการต่อยอดจากผลการประชุมสุดยอดอาเซียน - คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN – GCC Summit) เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีฯ ยืนยันความพร้อมของรัฐบาลในการสร้างโอกาสด้วยการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในด้านพลังงาน เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ผลจากการหารือระหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนซาอุดีอาระเบีย และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของไทยที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจ พร้อมได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนไทยเข้าร่วมลงทุนในซาอุดีฯ เพิ่มเติมด้วย

ด้านพลังงาน รองนายกรัฐมนตรีฯ นำเสนอถึงแนวทางนโยบายด้านคลังสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานสำรอง สำหรับประเทศในอนาคต โดยเอกอัครราชทูตฯ ให้ความสนใจและพร้อมนำประเด็นดังกล่าวไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐของไทยและหน่วยงานจากซาอุดีฯ ซึ่งปัจจุบันได้ริเริ่มความร่วมมือผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาโครงการไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Hydrogen) ในไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 รวมทั้งยังมีโครงการ Downstream partnership ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ปตท. และ บริษัทด้านพลังงานรายใหญ่ของซาอุดีฯ (Saudi Aramco) ที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสํารวจศักยภาพความร่วมมือด้านพลังงานและการลดคาร์บอน ซึ่งจะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมและปิโตรเคมีร่วมกันในภูมิภาค

ในช่วงท้าย รองนายกรัฐมนตรีฯ เน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือและขอให้ทั้งสองฝ่ายประสานงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งจะช่วยส่งเสริมประโยชน์ให้ครอบคลุมตามความต้องการของทั้งสองประเทศ  รวมทั้งในเดือนมกราคม 2567 นี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ จะเดินทางเข้าร่วมงานประชุม Future Minerals Forum 2024 ณ กรุงริยาด ซึ่งถือเป็นงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมของซาอุดีฯ ให้ความสำคัญในด้านทรัพยากรแร่และพลังงานอีกด้วย