ไทยใช้สิทธิGSP ส่งออก 9 เดือนสร้างรายได้กว่า 2.5 พันล้านเหรียญ

ไทยใช้สิทธิGSP ส่งออก 9 เดือนสร้างรายได้กว่า 2.5 พันล้านเหรียญ
เปิดสินค้าตัวท็อปใช้สิทธิ GSP ส่งออก ตลาดสหรัฐครองแชมป์ สินค้าดาวเด่น เครื่องปรับอากาศ กรดมะนาว  อาหารปรุงแต่ง และกระเป๋าใส่เสื้อผ้า ถุงมือยาง

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึง สถิติการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ที่ไทยได้รับในปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช โดยใน 9 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่ารวม 2,591.36 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ 53.61%

ทั้งนี้ตลาดที่ไทยมีการใช้สิทธิ GSP ส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์อยู่ที่ 2,375.45 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 91.66% ของมูลค่าการส่งออกรวมที่ใช้สิทธิ GSP

นอกจากนี้ยังพบว่าสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยและมีการใช้สิทธิ GSP สูงสุดอีกด้วย โดยในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม - กันยายน 2566 สินค้าดาวเด่นของไทยที่มีการใช้สิทธิ GSP สูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ มูลค่า 402.87 ล้านเหรียญสหรัฐ กรดมะนาว (หรือกรดซิทริก) มูลค่า 130.30 ล้านเหรียญสหรัฐ อาหารปรุงแต่ง มูลค่า 110.86 ล้านเหรียญสหรัฐ กระเป๋าใส่เสื้อ มูลค่า 104.00 ล้านเหรียญสหรัฐ และถุงมือยาง มูลค่า 91.37 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ ซึ่งการใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ นั้น ทำให้ไทยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ส่งออกไทยได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ยังมีสินค้าสำคัญอื่นๆ ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐฯ สูง อาทิ เลนส์แว่นตา ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ขนมที่ไม่มีโกโก้ผสมทำจากน้ำตาล เป็นต้น

สำหรับโครงการ GSP ของสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูง อาทิ เพชรพลอยรูปพรรณทำด้วยโลหะมีค่า (สวิตเซอร์แลนด์) หน้าปัดนาฬิกาชนิดคล็อกหรือวอตซ์ (สวิตเซอร์แลนด์) ของผสมของสารที่มีกลิ่นหอมชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหรือเครื่องดื่ม (สวิตเซอร์แลนด์) ข้าวโพดหวาน (นอร์เวย์) สูทของสตรีหรือเด็กหญิงทำด้วยขนแกะหรือขนละเอียดของสัตว์ (นอร์เวย์) ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด (นอร์เวย์) สับปะรดกระป๋อง ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโตชนิดซาร์ดา (CIS) เป็นต้น

 

 

TAGS: #GSP #ส่งออก