สื่อจีนให้ความสนใจ คู่หูแข้งโต๊ะเล็กไทยสัมภาษณ์เปิดใจ ร่วมทีมท้องถิ่นซินเจียง โอกาสลุยฟุตซอลโลก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า “นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์” นักกีฬาฟุตซอลชาวไทย วัย 31 ปี ผู้ใช้เวลาเล่นฟุตซอลในไทยมาตลอด ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตที่นำพาเขาสู่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ บ้านเกิดเมืองนอนมากกว่า 3,500 กิโลเมตร

นาวินนั้นมีทักษะโดยรวมที่ดียามลงสนาม มีความช่ำชองในการยิงประตูและเลี้ยงลูกบอล ผลงานของเขาเมื่อช่วงปลายปีก่อนได้เตะตาทีมฟุตซอล ซินเจียง จิงหงซือปาต๋า สังกัดฟุตซอล ซูเปอร์ ลีก ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศจีน โดยนาวินเผยว่าเขาไม่เคยเดินทางมาจีนและไม่รู้จักซินเจียงมากนัก ตอนนั้นกังวลไม่น้อยแต่ก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี

โชคดีที่นาวินไม่ได้ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนแต่เพียงผู้เดียว เพราะเพื่อนร่วมอาชีพที่สนิทกันมาหลายปีอย่าง “ปัญญา อรัญภูวนารถ” ได้รับการเชิญชวนจากทีมฟุตซอล ซินเจียง จิงหงซือปาต๋าเช่นกัน ซึ่งปัญญาเล่าย้อนว่าตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น และเคยบอกกับนาวินว่า “ถ้านายไป เขาก็ไปด้วย”

นาวินได้พบกับปัญญาที่มาจากชลบุรีระหว่างการแข่งขันฟุตบอลสมัยเรียนประถม ทั้งสองสนิทสนมกันนับตั้งแต่นั้นเพราะรักชอบกีฬาฟุตบอลเหมือนกัน โดยหลังจากเข้าสโมสรฟุตซอลอาชีพ นาวินและปัญญาต่างเล่นเข้าขากันมากจนกลายเป็นนักเตะคู่หูตัวฉกาจประจำสนาม

การข้ามน้ำข้ามทะเลมายังซินเจียงเพื่อเล่นฟุตซอลอาชีพถือเป็นเรื่องท้าทายของนาวินและปัญญาไม่น้อย เพราะมีความแตกต่างจากไทยอยู่มากในด้านการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ ภาษาและวัฒนธรรม รวมถึงอาหารการกิน ทำให้ทั้งสองต้องพยายามปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

“เราลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับซินเจียงบนอินเทอร์เน็ตก่อนมา ตอนนั้นคิดว่าคงจะปรับตัวลำบากไม่น้อย” นาวินเล่า “แต่ไม่คิดว่าพอมาถึงก็ปรับตัวเข้ากับทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากคนในทีมทั้งหมด” โดยนาวินและปัญญาต่างฉายแววความเก่งกาจและกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทีมไว้วางใจ

นาวินสามารถบุกและหาโอกาสทำแต้มได้ดีเสมอ ส่วนปัญญาช่วยคุมเกมยามอยู่กองหลัง ซึ่งความสามารถของทั้งสองช่วยให้ทีมฟุตซอลซินเจียง จิงหง ซือปาต๋า เก็บชัยชนะติดต่อกัน 9 นัด กลายเป็นหนึ่งในห้าทีมที่มีความแข็งแกร่งของซูเปอร์ ลีก

ทั้งนี้ นาวินเผยว่าเขาอยากเติบโตพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมชาวจีนต่อไป พร้อมเสริมว่าฟุตซอลของไทยมีรากฐานที่ดีกว่า แต่จีนก็พัฒนากีฬาฟุตซอลของตัวเองได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะจีนมีการบริหารจัดการและดำเนินงานที่ดี

นาวินและปัญญากล่าวว่าเวลานี้ถือเป็นช่วงรุ่งเรืองในการเล่นฟุตซอลอาชีพของพวกเขา ซึ่งนอกจากการแข่งขันรายการต่างๆ แล้ว พวกเขายังได้ไปท่องเที่ยวตลาดแกรนด์บาซาร์นานาชาติ หนึ่งในแลนด์มาร์กอันโด่งดังของนครอุรุมชี และจุดชมวิวอื่นๆ รวมถึงตกหลุมรักอาหารอย่างป้านเมี่ยน(บะหมี่ผัด)และเข่าโร่วด้วย(บาร์บีคิว)

ด้านปัญญาเผยว่าเขามักแชร์เรื่องราวชีวิตระหว่างอยู่ที่ซินเจียงบนสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมทิ้งท้ายว่าไม่ว่าการใช้ชีวิตหรือการเล่นฟุตซอล การเลือกเส้นทางนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และนี่เป็นโอกาสที่มีค่ามากในตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะมีโอกาสได้เล่นฟุตบอลในต่างประเทศเหมือนตอนนี้ไหม