สำนักข่าวซินหัว (28 ต.ค.) เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนเผยว่าพิธีสารยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน เวอร์ชัน 3.0 จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและพลังขับเคลื่อนให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและโลก พิธีสารฉบับนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นร่วมกันอย่างแน่วแน่ของจีนและอาเซียนต่อพหุภาคีนิยมและการค้าเสรี ขณะที่ระบบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศที่อิงตามกฎเกณฑ์กำลังเผชิญความท้าทายรุนแรง
ความร่วมมือเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนและการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคจะขยายไปไกลกว่าการเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนแบบดั้งเดิม โดยขยายไปสู่สาขาเกิดใหม่มากมาย ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว มาตรฐาน ตลอดจนห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรม
พิธีสารยกระดับฉบับนี้ถือเป็นระยะล่าสุดในวิวัฒนาการของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี 2002 และนำเวอร์ชัน 1.0 มาใช้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2010 ต่อมามีการลงนามพิธีสารเวอร์ชัน 2.0 ในปี 2015 และมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในปี 2019 ส่วนการเจรจาเพื่อยกระดับเป็นเวอร์ชัน 3.0 เริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน 2022 และสำเร็จลุล่วงในเดือนพฤษภาคม 2025
ความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของภูมิภาค จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียนติดต่อกัน 16 ปี ขณะที่อาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าทวิภาคีในปี 2024 สูงถึง 9.82 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31.96 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้น 17 เท่าตั้งแต่ปี 2002
พิธีสารฉบับใหม่มุ่งสำรวจความร่วมมือเชิงลึกในสาขาเกิดใหม่ ยกระดับการเปิดกว้างอย่างรอบด้าน และส่งเสริมการพัฒนาที่ครอบคลุม โดยครอบคลุม 9 สาขาหลักทั้งสาขาที่มีอยู่เดิม เช่นขั้นตอนศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า มาตรฐาน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิค แต่ยังรวมถึงสาขาใหม่ที่มีศักยภาพสูง เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว การเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน การแข่งขันและการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย
เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ กล่าวว่าหลังจากการลงนามพิธีสารยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนแล้ว จีนและประเทศสมาชิกอาเซียนจะดำเนินกระบวนการให้การรับรองภายในประเทศของตน เพื่อให้พิธีสารมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการโดยเร็วที่สุด
อนึ่ง พิธีสารฉบับนี้ลงนามเมื่อเช้าวันอังคาร (28 ต.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ก่อนเริ่มการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียน ครั้งที่ 28 โดยมีหลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยาน
(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่ทำงานที่สายการประกอบรถขุดเพื่อส่งออกไปยังลาวและเมียนมา ที่บริษัทผลิตอุปกรณ์แห่งหนึ่งในเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน วันที่ 21 เม.ย. 2025)