กองกำลังบูรพาเผยยังคงปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ชายแดนอย่างต่อเนื่อง จำต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสกัดกั้น ชาวกัมพูชารื้อรั้วลวดหนาม ส่งผลให้บางส่วนล่าถอยออกไป
เวลา 15.50 น. กองกำลังบูรพาได้รับแจ้งจากตำรวจควบคุมฝูงชนจังหวัดสระแก้ว ที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณรั้วลวดหนาม หมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว ว่า มีประชาชนชาวกัมพูชาจำนวน 200 คน พร้อมไม้ยาวประมาณ 3 เมตร เป็นอาวุธประจำกายเข้ามารื้อทำลายลวดหนามที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้วางเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนชาวกัมพูชาว่าอย่า ทำลายรั้วลวดหนาม แต่ก็ยังไม่เป็นผล ใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ไม่เป็นผล
เวลา 16.20 น. ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นจะต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้แก๊สน้ำตายิงเตือนชาวกัมพูชาที่กำลังทำลายรั้วลวดหนาม แต่ทางฝ่ายกัมพูชาก็ยังไม่ละความพยายามยังคงรื้อทำลายรั้วลวดหนาม ทางเจ้าที่ควบคุมฝูงชนจำเป็นจะต้องใช้กระสุนยาง ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวกัมพูชาบางส่วนได้ล่าถอยออกไปเพราะถูกแก๊สน้ำตา
ทบ.แจงเหตุการณ์มวลชนกัมพูชาชุมนุมประท้วง
ต่อมาเวลา 15.40 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพาว่า ฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมและดำเนินการวางลวดหีบเพลงตามแผนการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนกัมพูชายังคงแสดงการประท้วงอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา เวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางควบคุมสถานการณ์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนถอยห่างออกจากแนวปะทะ เนื่องจากผลของแก๊สน้ำตา
จนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. ฝ่ายไทยยังคงดำเนินการเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยการวางแนวลวดหนามเพิ่มเติมและใช้ยางรถยนต์ประกอบ รวมถึงควบคุมการประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่อง LRAD ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาเริ่มถอยออกจากพื้นที่ และมีการตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ไทยเป็นระยะ รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรงโดยการขว้างปาท่อนไม้ ก้อนหิน และยิงหนังสติ๊กมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จนมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด