สำนักข่าว QQ News เผยแพร่รายงานของ "สำนักข่าวตรง" (直新闻) ที่วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในไทยและความขัดแย้งกับกัมพูชา ในเรื่อง "ทำไมการคุยโทรศัพท์ของแพทองธารถึงทำให้คนไทยโกรธเกรี้ยว?"
สำนักข่าวของจีนรายนี้เรียกการเปิดเผยเนื้อหาการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับ ฮุน เซน แห่งกัมพูชาว่าเป็น Phone call gate (通话门) โดยเปรียบเทียบกับกรณีการดักฟังโทรศัพท์ Water gate ของสหรัฐฯ ที่ทำให้ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ต้องลาออกจาตำแหน่ง
"สำนักข่าวตรง" ของจีนได้สัมภาษณ์ศาสตราจารย์ จูเจิ้นหมิง (朱振明) สถาบันเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (南亚东南亚研究) ที่เมืองคุนหมิง โดยเขากล่าวว่า ผู้ที่ต่อต้านเปตุนตันในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่กลุ่ม "เสื้อเหลือง" ที่ต่อต้านครอบครัวของทักษิณมายาวนานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจำนวนมากที่เป็นกลางตั้งแต่แรก หรือแม้แต่สนับสนุนครอบครัวของทักษิณด้วยซ้ำ คำพูดที่ไม่เหมาะสมของแพทองธารดูหมิ่นกองทัพที่ปกป้องอธิปไตยของชาติและความมั่นคงของดินแดน และละเมิดเส้นแบ่งระหว่างศักดิ์ศรีของชาติและผลประโยชน์ของชาติ แม้ว่าแพทองธารจะขอโทษสำหรับคำพูดที่ไม่เหมาะสมของเธอ แต่ความโกรธของประชาชนก็ยากที่จะสงบลง
“การเมืองไทยมีความซับซ้อน มีพรรคการเมืองจำนวนมาก และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สาเหตุของวิกฤตินี้ไม่ใช่เพราะปัญหานโยบายภายในประเทศของแพทองธาร แต่เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับปัญหาอธิปไตยของชาติ เมื่ออธิปไตยของชาติถูกท้าทาย ประชาชนจะมีทัศนคติที่แข็งแกร่งที่จะปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างมั่นคง ความผิดพลาดของแพทองธารเกือบจะทำให้เธอกลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นปัญหาที่ร้ายแรง” จูเจิ้นหมิง แสดงทัศนะวิเคราะห์กับ "สำนักข่าวตรง"
จูเจิ้นหมิง กล่าวเสริมกับ "สำนักข่าวตรง" ว่าครอบครัวทักษิณและครอบครัว ฮุน เซน เป็นเพื่อนกันมานานกว่า 30 ปีแล้ว และไม่ตัดความเป็นไปได้ที่แพทองธารต้องการใช้ความสัมพันธ์นี้เพื่อคลายความตึงเครียดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการโทรศัพท์ แพทองธารให้ความสำคัญกับความรักและความรู้สึกส่วนตัวมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ แสดงให้เห็นว่าเธอไม่เข้าใจความซับซ้อนและอำนาจของการต่อสู้ทางการทูตเพียงพอ และจัดการเรื่องต่างๆ อย่างเร่งรีบเกินไป ซึ่งยังสะท้อนให้เห็นว่าเธอขาดประสบการณ์ในการปกครอง ซึ่งกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามทำการต่อต้านเธอ
รายงานโดย "สำนักข่าวตรง" (直新闻) และ สำนักข่าว QQ News แปลและเรียบเรียงโดยสำนักข่าว The Better
Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP
