ประมวลภาพบรรยากาศพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร และสมเด็จพระราชินีคามิลลา สวมมงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ พิธีราชาภิเษกแรกของสหราชอาณาจักรในรอ
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในอังกฤษ หรือตรงกับเวลา 17.00 น ตามเวลาในประเทศไทย ของวันที่ 6 พ.ค. 2566 สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ใจกลางกรุงลอนดอน เพื่อประกอบพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกของสหราชอาณาจักรในรอบ 70 ปี นับตั้งแต่ค.ศ.1953 รัชสมัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
พระราชพิธีเริ่มขึ้นเมื่อกษัตริย์และพระราชินีองค์ใหม่เสด็จพระราชดำเนินโดยรถม้าพระที่นั่ง พัชราภิเษก (Diamond Jubilee State Coach) จากพระราชวังบักกิงแอมไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยตลอดเส้นทางความยาวเกือบ 2 กิโลเมตร มีประชาชนชาวอังกฤษนับแสนคนเฝ้ารอรับเสด็จอย่างเนื่องแน่น
เมื่อเสด็จถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ อาร์คบิชอบแห่งแคนเทอร์เบอร์รี่ ทรงนำการประกอบด้วยขั้นตอนพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ 6 ขั้นตอน ดังนี้
รับรองฐานะความเป็นกษัตริย์ (recognition) กษัตริย์และพระราชินีพระองค์ใหม่จะเสด็จไปยังแท่นพิธีซึ่งพระราชอาสน์แห่งฐานันดร เพื่อประกอบพิธีรับรองความเป็นกษัตริย์โดยอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรี พระเจ้าชาลส์ที่ 3 จะทรงประกอบพิธีนี้โดยหันพระองค์ไปยังทิศทั้ง 4 ของวิหาร พร้อมประกาศว่า สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์พระองค์ใหม่ของพวกเรา อย่างไร้การเคลือบแคลง จากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีนแต่ละทิศจะขานรับว่า “God Save the King”
การกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ (oath) จากนั้นอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอร์รี่ อัครมุขมนตรีแห่งศาสนจักรอังกฤษ ถวายพระคัมภีร์ไบเบิล เพื่อให้กษัตริย์พระองค์มใหม่ทรงกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณว่า จะทรงพิทักษ์รักษากฎหมายของแผ่นดิน และศาสนจักรอังกฤษด้วยความยุติธรรมและเมตตา พร้อมลงพระปรมาภิไธยเป็นลายลักษณ์อักษรตามกฎหมาย ขณะเดียวกันนี้ สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงสวดภาพขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า ประทานความสุขสงบและความเจริญรุ่งเรืองแก่พสกนิกรผู้นับถือศาสนาอื่นด้วย ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพความหลากหลายทางศาสนาตามสมัยใหม่
การเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Oil anointing) ช่วงนี้เป็นพิธีการสำคัญยิ่งในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอร์รี่จะเป็นผู้ทำการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านการปรุงขึ้นในวิหารดิ์สิทธิ์ในนครเยรูซาเลม อันเป็นที่ประสูติของพระเยซู โดยทำการเจิมบนหน้าผาก หน้าอก และพระหัตถ์ทั้งสองข้าง ขณะทรงประทับบนพระราชอาสน์เซนต์เอ็ดเวิร์ด ในขั้นตอนนี้จะไม่มีการถ่ายทอดสดให้ชม โดยจะมีการใช้ฉากกั้นและใช้ผ้าม่านคลุมด้านบน เนื่องจากเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ว่ากษัตริย์ทรงทำการชำระล้างบาประหว่างพระเจ้าโดยตรง ในขั้นตอนการเจิมนี้ คณะนักร้องประสานเสียงจะร้องเพลง Zadok the Priest ซึ่งเป็นเพลงสำคัญในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษมาตั้งแต่ยุคโบราณ
การถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และถวายสมวมมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด (investiture) หลังเสร็จสิ้นการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรีจะทำการถวายเครื่องราชกกุฎภันฑ์หลากชนิด อาทิ เดือยรองเท้าขี่ม้าและพระแสงดาบเป็นอันดับแรกอันเป็นสัญลักษณ์ของพระราชอำนาจและความเป็นอัศวิน จากนั้นเป็นการถวายกำไลและฉลองพระองค์คลุมโดย ผู้แทนพระองค์จากองค์กรศาสนาต่างๆ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์สำคัญอย่างเจ้าชายวิลเลียม
จากนั้นเป็นเหตุการณ์สำคัญเมื่อ อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรีทำการถวายสวมพระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ดลงบนพระเศียร ซึ่งตลอดพระชนมชีพพระองค์จะได้ทรงพระมหามงกุฎนี้เพียงครั้งเดียวในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเท่านั้น จากนั้นเหล่าพระราชวงศ์และขุนนาง จะเปล่งเสียงถวายพระพรพร้อมเพรียงกันว่า "God Save The King"
หลังการถวายเครื่องราชฯและพระมหามงกุฎ กษัตริย์พระองค์ใหม่จะปรับทับบนพระราชบัลลังก์ เพื่อให้พระบรมวงศาสนุวงศ์ถวายพระพร โดยในการนี้เจ้าชายวิลเลียม จ้าชายแห่งเวลส์ ทรงเป็นตัวแทนสมาชิกราชวงศ์ถวายความเคารพเพียงพระองค์เดียว เจ้าชายวิลเลียมทรงจุมพิตพระราชบิดาระหว่างพิธีถวายความจงรักภักดี ขณะประทับบนพระราชบัลลังก์
พระราชพิธีดำเนินมาถึงการถวายพระมงกุฎแด่พระราชินีคามิลลา โดยอาร์ชบิชอปจะทำการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ถวายการสวมพระมหามงกุฎควีนแมรี บนพระเศียรของควีนคามิลลา
เมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีแล้ว กษัตริย์พระองค์ใหม่พร้อมด้วยพระราชินีจะทรงผ้าคลุมพร้อมเครื่องราชกกุธภัณฑ์เต็มยศแบบโบราณ เสด็จพระราชดำเนินกลับพระราชวังบักกิงแฮมโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคอันยิ่งใหญ่ ด้วยราชรถม้าทองคำ (Gold State Coach) ซึ่งเป็นราชรถที่อายุเก่าแก่ 260 ปี
เมื่อเสด็จถึงพระราชวังบักกิงแฮม สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 พระราชินีคามิลลา พร้อมด้วย เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าหญิงแคทเทอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จออกสีหบัญชรด้านหน้าพระราชวังบักกิงแฮมเพื่อให้ประชาชนชาวอังกฤษชื่นชมพระบารมี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีประชาชนหลายล้านคนทั่วโลกต่างเฝ้าชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ในครั้งนี้ผ่านทางหลากหลายช่องทาง ท่ามกลางพระราชพิธีที่มีการปรับลดขั้นตอนในบางส่วนลงเพื่อให้พระราชพิธีสั้นและกระชับขึ้น สะท้อนถึงการปรับตัวในยุคสมัยใหม่ของราชวงศ์อังกฤษ