เวียดนามขอความช่วยเหลือจากบริษัทเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากร
เวียดนามกำลังขอความช่วยเหลือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ รวมถึง Lockheed Martin, SpaceX และ Google เนื่องจากเวียดนามพยายามลดภาษีศุลกากร 46% ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกเก็บจากเวียดนามในช่วง "วันปลดปล่อย" ทั้งนี้ เวียดนามได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากเป็นอันดับสาม รองจากจีนและเม็กซิโก และต้องการแก้ไขความไม่สมดุลนี้เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากภาษีศุลกากร
จากการรายงานของ AFP รัฐบาลฮานอยและรัฐบาลวอชิงตันกำลังเจรจารอบที่สองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยที่ เหงียน ห่ง เซียน (Nguyễn Hồng Diên) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนามได้พบปะกับผู้บริหารจากบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามที่กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ
เหงียน ห่ง เซียน หวังว่าการเจรจาจะช่วยโน้มน้าวฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้ว่า "ความร่วมมือกับเวียดนามจะนำมาซึ่งผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์ในระยะยาวและมีส่วนช่วยในการปรับปรุงดุลการค้าในทิศทางที่ยุติธรรม กลมกลืน และยั่งยืน"
แถลงการณ์ดังกล่าวอ้างคำพูดของรัฐมนตรีว่าเวียดนามว่าเวียดนามจำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติในฐานะคู่ค้าที่สำคัญของสหรัฐฯ
ในการประชุม บริษัท Excelerate Energy ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ได้เสนอแนวทางในการ "ทำให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางการจำหน่าย LNG ในภูมิภาคอาเซียน" ในขณะที่บริษัท Lockheed Martin กล่าวว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลฮานอยในการพัฒนาเทคโนโลยีการบิน อวกาศ และการป้องกันประเทศ แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ
บริษัท SpaceX ของ อีลอน มัสก์ กล่าวว่ามีแผนที่จะสร้างสถานีภาคพื้นดินสูงสุด 15 แห่งในเวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่นำโดยระบบ Starlink โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล โดดเดี่ยว ชายแดน และเกาะ
กระทรวงกลาโหมของเวียดนามเสริมว่า SpaceX เน้นย้ำว่าเวียดนามเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ในแนวทางการขยายบริการทั่วโลกของ Starlink
กลุ่มอุตสาหกรรมและพลังงานแห่งชาติเวียดนาม (PetroVietnam) ซึ่งเป็นของรัฐ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท Westinghouse Electric ของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์
ตามคำกล่าวของเวียดนาม ความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานจะเป็น "แรงผลักดันสำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกา"
จับตาเวียดนามจะมีพลังงานนิวเคลียร์แล้ว?
ข้อตกลงของ Westinghouse Electric กับ PetroVietnam จะเน้นที่รูปแบบการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการฝึกอบรมทรัพยากรบุคคล
เหงียน ห่ง เซียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม กล่าวในการประชุมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท Westinghouse Electric ว่า ความร่วมมือด้านการพัฒนาพลังงานจะเป็น "แรงผลักดันสำคัญที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับการค้าทวิภาคีระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ"
กระทรวงฯ อ้างคำพูดของ มาร์กาเร็ต โคเซนติโน รองประธานบริหารฝ่ายกิจการองค์กรของบริษัท Westinghouse Electric ที่กล่าวว่า บริษัทฯ แสดงการสนับสนุนแผนของเวียดนามอย่างแข็งขัน พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านพลังงานในระยะยาว
เวียดนามต้องการเริ่มแผนพลังงานนิวเคลียร์ใหม่อีกครั้งเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และได้ลงนามข้อตกลงกับรัสเซียเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งเชื่อมโยงกับโครงการพลังงานนิวเคลียร์นิงห์ถวน
โครงการดังกล่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับโรงงาน 2 แห่งในจังหวัดนิญถ่วนทางตอนกลางของประเทศ โดยมีกำลังการผลิตรวม 4,000 เมกะวัตต์ เดิมทีจะได้รับการพัฒนาด้วยความช่วยเหลือจาก Rosatom และกลุ่มพันธมิตร JINED ของญี่ปุ่น ก่อนที่แผนดังกล่าวจะถูกยกเลิกในปี 2559
บริษัทของทรัมป์อาจเป็นผู้ที่"ได้"มากที่สุด
เจ้าหน้าที่ของเวียดนามกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาสร้างตึกระฟ้าในนครโฮจิมินห์ โดยลูกชายของทรัมป์มีกำหนดจะไปดูสถานที่ในสัปดาห์นี้
ทางการนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางธุรกิจทางตอนใต้ของเวียดนาม กล่าวในแถลงการณ์ว่าได้พบกับตัวแทนของ Trump Organization และหุ้นส่วนการลงทุนจากเวียดนามอย่าง Kinhbac City Development Corporation (KBC)
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่าทางการได้ทำการสำรวจภาคสนามของสถานที่ที่มีศักยภาพสองแห่งทางภาคตะวันออกของเมืองไปแล้วเมื่อวันจันทร์ และมีกำหนดจะพบกับผู้นำขององค์กร Trump Organization ในวันพฤหัสบดี
Trump Organization เป็นผู้สร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูทั่วโลกกำลังตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบ โดยนักวิจารณ์กล่าวหาว่าทรัมป์ใช้ตำแหน่งทางการเมืองของเขาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเงินส่วนตัว
หนังสือพิมพ์โต่ยแจ่ (Tuổi Trẻ) ที่ควบคุมโดยรัฐบาล รายงานว่า เอริค ทรัมป์ รองประธานาธิบดีอาวุโสขององค์กร ซึ่งเป็นบุตรชายคนที่สองของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นผู้นำการเยือนครั้งนี้
หนังสือพิมพ์โต่ยแจ่ยังระบุด้วยว่าคณะผู้แทนจะเยี่ยมชมสถานที่ที่เสนอให้สร้าง "Trump Tower"
หนังสือพิมพ์โต่ยแจ่กล่าวว่า เอริค ทรัมป์ จะเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันพุธนี้สำหรับรีสอร์ทและสนามกอล์ฟสุดหรูมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ที่พัฒนาโดย Trump Organization และ KBC
สนามกอล์ฟขนาด 990 เฮกตาร์ในจังหวัดหุ่งเอียนทางตอนเหนือนอกกรุงฮานอยจะมีสนามกอล์ฟ 54 หลุมและวิลล่าพักอาศัย หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงาน
ชาร์ลส บอยด์-บาวแมน ผู้อำนวยการโครงการกล่าวในการประชุมกับนายกรัฐมนตรี ฝั่ม มิญ จิ๊ญของเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคมว่ากลุ่มของเขามีเป้าหมายที่จะสร้างรีสอร์ทกอล์ฟให้เสร็จในเดือนมีนาคม 2027 ก่อนที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)
เวียดนามและสหรัฐอเมริกากำลังเจรจาการค้าหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้าเวียดนาม 46% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขึ้นภาษีนำเข้าระดับโลก
ทรัมป์เดินทางเยือนเมืองหลวงของเวียดนามในปี 2019 เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน แต่ล้มเหลว
เขาบรรยายฮานอยในสมัยนั้นว่าเป็น "เมืองที่น่าทึ่ง" พร้อมทั้งยกย่องเวียดนามว่า "ทำผลงานได้ดี นั่นคือ การพัฒนาเศรษฐกิจ"
Photo by MANAN VATSYAYANA / AFP