เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม กระเบื้องบนหลังคาหอกลองในอำเภอเฟิ่งหยาง เมือฉูโจว มณฑลอานฮุย หลุดร่วงลงมาเป็นบริเวณกว้าง ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม มีข่าวว่าส่วนหนึ่งของอาคารหอกลองที่พังถล่มในเมืองเฟิงหยาง มณฑลอานฮุย ไม่ใช่โบราณวัตถุ แต่เป็น "โบราณวัตถุปลอม" (假古董) ที่ถูกสร้างใหม่โดยผิดกฎหมาย จากการรายงานของสื่อจีน เช่น เถิงซวิ่น (Tencent QQ)
ทั้งนี้ เถิงซวิ่นอ้างว่ามีรายงานว่าส่วนอาคารของหอกลองเมืองเฟิ่งหยาง มณฑลอานฮุย ไม่ใช่โบราณวัตถุ แต่เป็น "ของโบราณปลอม" ที่ถูกสร้างใหม่โดยผิดกฎหมายในปี 1995 โดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก อย่างไรก็ตาม โครงสร้างอิฐและหินของชานชาลากำแพงเมืองด้านล่างอาคารหอกลองเป็นหน่วยคุ้มครองโบราณวัตถุที่สำคัญของมณฑล ตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของกฎหมายคุ้มครองโบราณวัตถุ โครงการสร้างใหม่บนชานชาลาเมืองจะต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโบราณวัตถุของมณฑลและสำนักงานบริหารมรดกทางวัฒนธรรมของรัฐเป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์จริงคือขั้นตอนการอนุมัติที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานโบราณวัตถุของมณฑลอานฮุยในปี 1995 และเป็นอาคารที่ผิดกฎหมาย
ในเรื่องนี้ หลูเต๋อหย่ง เลขาธิการพรรคและผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอำเภอเฟิ่งหยาง กล่าวกับผู้สื่อข่าวของซินจิงเป้า (新京报) ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอำเภอเฟิ่งหยางได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานโบราณวัตถุแห่งมณฑลอานฮุยเพื่อขอให้สร้างใหม่ในปี 1995 และได้รับคำตอบอนุมัติ และหอกลองเฟิงหยางไม่ใช่การก่อสร้างที่ผิดกฎหมาย
เมื่อถูกถามว่าการบูรณะหอกลองได้รับการอนุมัติจากสำนักงานบริหารมรดกทางวัฒนธรรมแห่งรัฐหรือไม่? หลูเต๋อหย่งกล่าวว่า เนื่องจากเป็นโบราณสถานทางวัฒนธรรมของมณฑล จึงจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลมณฑลเท่านั้น และ "ทีมสอบสวนจะออกรายงานโดยละเอียดในภายหลัง"
ทั้งนี้ หอกลองเฟิ่งหยาง (凤阳鼓楼)หรือที่เรียกอีกอย่างว่าหอตูเฉียวโหลว (都谯楼) ถูกสร้างขึ้นในปีที่ 8 ของจักรพรรดิหงอู่ หรือ จูหยวนจาง ในราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1375) ถือเป็นหอกลองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 3A ของประเทศอีกด้วย ในปี 1989 หอกลองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยอนุรักษ์โบราณวัตถุที่สำคัญในมณฑลอานฮุย ในปี 1995 อำเภอเฟิ่งหยาง ได้เริ่มสร้างอาคารด้านบนของหอกลองขึ้นใหม่และซ่อมแซมฐาน และในปี 1998 การสร้างหอกลองขึ้นใหม่ก็เสร็จสมบูรณ์
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better