หวังอี้ นักการทูตระดับสูงของจีน และเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ มาเจรจากันที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย โดยเน้นไปที่ประเด็นอ่อนไหวของไต้หวัน และการโจมตีในทะเลแดงโดยกลุ่มกบฏฮูตี เจ้าหน้าที่้เผยว่าการเจรจาเป็นไปอย่าง "ตรงไปตรงมาและมีสาระสำคัญ"
การเจรจาซึ่งกินเวลาราวๆ 12 ชั่วโมงในช่วง 2 วัน คาดว่าจะปูทางไปสู่การพูดคุยทางโทรศัพท์โดยตรงระหว่างประธานาธิบดี สีจิ้นผิง และโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (หรือในช่วงปลายไตรมาสที่หนึ่งถึงต้นไตรมาสที่สองของปีนี้) ตามการระบุของเจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาว
รัฐบาลจีนและรัฐบาลสหรัฐเผชิญหน้ากันในช่วงไม่กี่ปีมานี้ในประเด็นขัดแย้งตั้งแต่เทคโนโลยีและการค้าไปจนถึงสิทธิมนุษยชน เช่นเดียวกับเกาะไต้หวัน และการอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้
ความสัมพันธ์ค่อนข้างมีเสถียรภาพมากขึ้น นับตั้งแต่ไบเดนได้พบกับสีจิ้นผิงในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วในการเจรจาที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับว่าเป็นความสำเร็จใรระดับหนึ่ง
ถ้อยแถลงบนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุเมื่อวันเสาร์ว่า หวังอี้และ เจค ซัลลิแวน “มีการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมา มีสาระสำคัญ และเกิดผลในการดำเนินการตามฉันทามติที่ได้รับในการประชุมที่ซานฟรานซิสโก... และในการจัดการประเด็นสำคัญและละเอียดอ่อนในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่างเหมาะสม”
ทำเนียบขาวกล่าวเสริมว่าการประชุมครั้งนี้เป็น “ส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาช่องทางการสื่อสารที่เปิดกว้าง และจัดการการแข่งขันในความสัมพันธ์อย่างมีความรับผิดชอบ” ระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อสะท้อนคำอธิบายของฝ่ายจีนเกี่ยวกับการเจรจา
- ประเด็นอิหร่าน -
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวโดยไม่เปิดเผยชื่อ ในการเจรจาที่กรุงเทพฯ ซัลลิแวนขอให้ หวังอี้ กดดันรัฐบาลอิหร่านเพื่อยุติการโจมตีการขนส่งทางทะเลแดงที่ดำเนินการโดยกลุ่มกบฏฮูษีในเยเมน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยอิหร่าน
“ซัลลิแวนเน้นย้ำถึงความสำคัญของรัฐบาลจีนโดยใช้ต่อรองกับอิหร่านเพื่อเรียกร้องให้ยุติและนำไปสู่การยุติการโจมตี” เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวเปิดเผย
เธอกล่าวเสริมว่า “จีนกำลังบอกเราโดยตรงว่าพวกเขากำลังหยิบยกเรื่องนี้คุยกับอิหร่าน แต่คุณรู้ไหม ฉันคิดว่าเรากำลังดูข้อเท็จจริงในพื้นที่ และการโจมตีเหล่านั้นดูเหมือนจะดำเนินต่อไป”
เมื่อพิจารณาจากความเป็นพันธมิตรระหว่างปักกิ่งกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ซัลลิแวนยังได้ยกประเด็นการทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับมอสโกด้วย
“ฉันรู้ว่าเรากังวลอย่างยิ่งกับการทดสอบอาวุธเมื่อเร็วๆ นี้ เรากังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ และสิ่งที่คิมกำลังตั้งใจจะทำ” เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าว โดยอ้างถึงผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน
เกาหลีเหนือซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครอง ได้เร่งการทดสอบอาวุธและภัยคุกคามต่อเกาหลีใต้ลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และได้ส่งอาวุธไปยังรัสเซียเพื่อนำไปทำสงครามในยูเครน
- ประเด็นไต้หวัน -
เมื่อเร็วๆ นี้ มหาอำนาจทั้งสองได้โต้เถียงกันอีกครั้งเกี่ยวกับไต้หวันที่ปกครองตนเอง ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นดินแดนของตน และเป็นสถานที่ซึ่งมีการเลือกตั้งในเดือนนี้
พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party) ของไต้หวัน ซึ่งปฏิเสธการอ้างสิทธิของจีนเหนือเกาะแห่งนี้ สามารถครองตำแหน่งได้สมัยที่ 3
ในช่วงก่อนถึงการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่จีนได้ตำหนิ ไล่ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวันที่พิ่งได้รับเลือกตั้งว่าเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนที่เป็นอันตราย ซึ่งจะทำให้ไต้หวันตกอยู่ใน "เส้นทางที่ชั่วร้าย" แห่งการเลือกที่จะประกาศอิสรภาพ
ในสัปดาห์นี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ 2 คนได้พบกับ ไล่ชิงเต๋อ เพื่อยืนยันการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐต่อไต้หวัน
ไบเดนได้ส่งคณะผู้แทนอย่างไม่เป็นทางการไปแสดงความยินดีกับ ไล่ชิงเต๋อ ไม่นานหลังจากการลงคะแนนเสียง
ในระหว่างการเจรจาครั้งล่าสุด หวังอี้เน้นย้ำว่าไต้หวันเป็น “กิจการภายในของจีน และการเลือกตั้งระดับภูมิภาคในไต้หวันไม่สามารถเปลี่ยนความเป็นจริงพื้นฐานที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนได้” กระทรวงการต่างประเทศระบุ
“ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดต่อสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันคือสิ่งที่เรียกว่าขบวนการ 'เอกราชของไต้หวัน' ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดต่อความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ก็คือขบวนการ 'เอกราชของไต้หวัน' เช่นกัน” คำแถลงกล่าวเสริม
ซัลลิแวน "เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน" ตามรายงานของทำเนียบขาว ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งสองฝ่ายกล่าวว่า การเจรจาระยะเวลา 2 วันยังกล่าวถึงประเด็นตะวันออกกลาง ยูเครน ทะเลจีนใต้ และประเด็นระหว่างประเทศอื่นๆ
พวกเขาตกลงที่จะเปิดตัวคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือต่อต้านยาเสพติด พร้อมทั้งจัดตั้งการเจรจาระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองคนต่างก็ “ตระหนักถึงความก้าวหน้าล่าสุดในการกลับมาติดต่อสื่อสารระหว่างทหารของทั้งสองประเทศอีกครั้ง และยืนยันถึงความสำคัญของการรักษาช่องทาง (การติดต่อสื่อสาร) เหล่านี้” ทำเนียบขาวกล่าว
Text by Agence France-Presse
Photo by Fabrice COFFRINI and Sergio Lima / AFP