กองเชียร์ไต้หวันถล่มเพจสถานทูตจีนในไทย หลังติงสื่อสัมภาษณ์รัฐมนตรีไต้หวัน

จากกรณีที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ทำการสัมภาษณ์ อู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และเผยแพร่ผ่านรายงานข่าว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา 

โดยตอนหนึ่งของการสัมภาษณ์ อู๋เจาเซี่ย ซึ่งมีท่าทีรุนแรงต่อจีนและอยู่ฝ่ายเอกราชไต้หวัน กล่าวว่า "จีนกำลังอาศัยวิธีการต่างๆ เพื่อบีบบังคับให้ไต้หวันยอมจำนน ภายใต้แรงกดดัน อาทิ การข่มขู่ด้วยกำลังทหาร การสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจ และการลิดรอนพื้นที่ในเวทีนานาชาติของไต้หวัน เพื่อการพิชิตเป้าหมายตามกลยุทธ์ “บีบให้คู่ต่อสู้ยอมจำนน แทนการทำสงคราม” 

ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้ลบคลิปการสัมภาษณ์ดังกล่าวแล้ว คาดว่าหลังจากเกิดกรณีที่สถานทูตจีนแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม เนื้อหาการสัมภาษณ์ยังเผยแพร่ในเว็บไซต์ Taiwan Today ของกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย มีแถลงการณ์ตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเนื้อหาของแถลงการณ์ภาษาไทยมี ดังนี้

"เมื่อเร็วๆ นี้ มีสื่อไทยสื่อหนึ่งได้ออกอากาศรายการสัมภาษณ์ อู๋เจาเซี่ย คนที่คิดจะแบกแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน อู๋ได้ปลุกปั่นคำพูดที่เหลวไหลเกี่ยวกับ “การแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวัน” ในการให้สัมภาษณ์ และโจมตีข้อเสนอที่รวมประเทศเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสันติของประเทศจีนอย่างร้ายแรง คำพูดที่ไร้สาระอย่างนี้ไม่คุ้มค่าที่จะหักล้าง ส่วนสื่อนี้ได้เสนอเวทีที่เผยแพร่คำพูดที่เหลวไหลให้แก่คนที่คิดจะแบกแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน ซึ่งทำลายผลประโยชน์ของประเทศจีน และทำร้ายความรู้สึกของประชาชนจีน ฝ่ายจีนต้องแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำอย่างนี้อย่างรุนแรง"

"ไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งที่แบ่งแยกไม่ได้ของจีน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการยอมรับของทั่วโลก การกระทำที่ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญในเรื่องที่เกี่ยวกับบูรณภาพแห่งดินแดนและการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดนของจีน ไม่ว่าเป็นการกระทำใดๆ ก็ตาม ล้วนตรงกันข้ามกับมิตรภาพระหว่างประชาชนของจีนและไทย การกระทำที่ทำร้ายประเทศอื่นๆ และประชาชนของประเทศอื่นๆ โดยใช้เสรีภาพของสื่อเป็นข้ออ้าง ไม่ว่าเป็นการกระทำใดๆ ก็ตาม ล้วนเป็นการใช้เสรีภาพของสื่ออย่างพร่ำเพรื่อ"

"เราหวังว่าสื่อที่เกี่ยวข้องเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของจีน แก้ไขการกระทำที่ผิดพลาด และไม่ให้เรื่องที่ทำร้ายความรู้สึกของประชาชนจีนเกิดขึ้นอีก"

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สถานทูตจีนในไทยได้โพสต์แถลงการณ์ดังกล่าวในเพจเฟซบุ๊คของทางสถานทูต ได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นอย่างล้นหลาม ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน มีมากกว่า 800 ความเห็น มีทั้งที่สนับสนุนท่าทีของรัฐบาลจีน และมีอีกเป็นจำนวนมากที่เข้ามาสนับสนุนไต้หวัน

เช่น "เรารักประเทศไต้หวัน We love Taiwan (the country)" หรือบางความเห็นบอกว่า "ฉันรักไต้หวัน" และ "ไม่ควรมาก้าวก่ายการทำงานขอสื่อไทยค่ะ ที่นี่ เรามีสิทธิเสรีภาพ ไม่เหมือนที่จีน" และบางความเห็นบอกว่า "ที่นี่ประเทศไทย ที่แปลว่าอิสระค่ะ" และมีความเห็นที่สะท้อนไปยังจีนว่า "เปราะบางเหลือเกิน" 

และมีอีกจำนวนมากที่โพสต์ภาพธงของไต้หวัน หรือธงของไต้หวันที่เคียงคู่ธงชาติไทย บางความเห็นก็โพสต์ธงของไต้หวันและธงของฮ่องกง ซึ่งสะท้อนสิ่งที่เรียกว่า "พันธมิตรชานม" ซึ่งหมายถึงดินแดนที่ดื่มชานมและเรียกร้องประชาธิปไตย ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง และไทย  เป็นขบวนการออนไลน์ที่ตอนนี้ซาลงไปแล้ว หลังจากการล่มสลายของการประท้วงที่ฮ่องกง และการจบลงของการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่แล้วในไทย ซึ่งปรากฏการณ์นี้ล่าสุดถูกเอ่ยถึงอีกครั้ง ในความเห็นบางเห็นที่บอกว่า "ชาไข่มุกที่ดีต้องชาไต้หวัน"

ในขณะที่คนไทยที่แสดงความเห็นสนับสนุนทางการจีน ก็จะถูกกดหัวเราะโดยคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มที่สนับสนุนไต้หวันนั่นเอง และบางความเห็นยังมีการตอบโต้กันไปมาว่าระหว่าง "กลุ่มเชียร์จีน" กับ "กลุ่มเชียร์ไต้หวัน" 

เช่น ความเห็นหนึ่งบอกว่า "คนไทยส่วนใหญ่เคารพ ไม่ก้าวกายแทรกแซง ประเทศอื่น และประเทศจีน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมิตรประเทศกับไทย จีนไทย ใช่อื่นไกล ถือเป็นพี่น้องกัน ในไทยก็จะมีสื่อและคนบางกลุ่ม ที่ไม่รู้จักการวางตัว ไม่รู้จักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้กระทั่งในโพสต์นี้ก็ยังมีเกรียนคีบอร์ดจำนวนไม่น้อยที่คะนองมือ หากจะพิจารณาคนหรือสื่อเหล่านี้ก็สมควรได้รับการตำหนิ และมาตรการตามสมควร" อย่างไรก็ตาม ความเห็นนี้ถูกถล่มจากกลุ่มเชียร์ไต้หวันอย่างหนัก 

เช่นเดียวกับความเห้นท็อปเมนต์ที่บอกว่า "ในฐานะประชาชนชาวไทยคนหนึ่ง ไม่เห็นด้วย ที่สื่อบางสื่อในประเทศไทย ใช้เสรีภาพเกินขอบเขต และไม่ให้ความเคารพในอธิปไตยของประเทศจีน อีกทั้งสื่อนี้ยังเป็นสื่อที่ได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ก็ยิ่งไม่สมควรที่จะนำเสนอข้อมูลในทางที่ไม่ถูกต้อง เสรีภาพ ต้องมากับความถูกต้อง ไม่สามารถอ้างเสรีภาพสื่อ เพื่อใส่ร้ายหรือบิดเบือนความเป็นจริงได้"

ความเห็นนี้มีผู้เข้ามาตอบหลายสิบคน เช่น ความเห็นตอบโต้เจ้าว่า "เสรีภาพ ไม่มีคำว่าเกินขอบเขต ไว้ให้ไทยเป็นมณฑลนึงของจีนให้ได้ก่อนค่อยมาใช้คำนี้" และอีกความเห็นบอกว่า "สื่อไทยก็เคารพอธิปไตยของจีนตลอดนะครับ เพราะสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) ก็มีอธิปไตยของตัวเองเช่นกัน"