แก้ไขอดีต เดินทางย้อนเวลาไปกับ “The Flash”

แก้ไขอดีต เดินทางย้อนเวลาไปกับ “The Flash”
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์เรื่อง  “The Flash” เอซร่า มิลเลอร์กลับมารับบทแบร์รี่ อัลเล็นในภาพยนตร์ที่ซูเปอร์ฮีโร่ดีซีจะมาฉายเดี่ยวครั้งแรก

โลกในเรื่อง “The Flash” เกิดความอลหม่านขึ้นเมื่อแบร์รี่ใช้พลังวิเศษของเขาเดินทางย้อนเวลา เพื่อกลับไปแก้ไขอดีตหลายเรื่อง แต่การที่เขาพยายามช่วยครอบครัวตัวเองกลับสร้างความเปลี่ยนแปลงให้อนาคตด้วย แบร์รี่ต้องติดกับเมื่อนายพลซอดหวนคืนมาทำลายล้างโลก และไม่มีซูเปอร์ฮีโร่คนใดมาช่วยเหลือ จนกระทั่งแบร์รี่ต้องเกลี้ยกล่อมให้แบทแมนอีกร่างหนึ่งที่ปลดเกษียณไปแล้ว

และช่วยเหลือคริปโตเนียนที่ถูกขังเอาไว้... แม้ว่าจะไม่ใช่คนที่เขาตามหาสักเท่าไหร่ แต่เพื่อปกป้องโลกของเขาและหวนกลับไปหาอนาคตที่เขาคุ้นเคย แบร์รี่เหลือเพียงความหวังเดียวคือการแข่งกับชีวิตของเขา แต่เขาจะยอมเสียสละมากพอเพื่อลบล้างทุกอย่างในจักรวาลหรือไม่? 

ทีมนักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “The Flash” ได้แก่ นักแสดงดาวรุ่ง ซาช่า แคลล์, ไมเคิล แชนนอน (“Bullet Train,” “Batman v Superman: Dawn of Justice”), รอน ลิฟวิงสตัน (“Loudermilk,” “The Conjuring”), มาริเบล เวอร์ดู (“Elite,” “Y tu mamá también”), เคียร์ซีย์ เคลมอนส์ (“Zack Snyder’s Justice League,” “Sweetheart”), แอนเจ เทราว์ (“King of Ravens,” “Man of Steel”) และไมเคิล คีตัน (“Spider-Man: Homecoming,” “Batman”)

“The Flash” คือภาพยนตร์ที่จะพาซูเปอร์ฮีโร่คนโปรดจาก DC ที่แฟนๆ ชื่นชอบมาอยู่บนหน้าจอ เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นอันยิ่งใหญ่ มุกตลก และความอุ่นใจที่คาดไม่ถึง พร้อมด้วยพลังวิเศษที่เล่นกับเวลาได้ตามใจต้องการ... และเปลี่ยนแปลงอดีต มีการรวมตัวละครจาก DC ที่เป็นอมตะอย่างแบทแมน, เดอะ แฟลช, ซูเปอร์เกิร์ล และแบทแมน! รวมถึงเหล่าร้ายคนสำคัญในคริปตันอย่างนายพลซอด หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยภาพอันน่าตื่นเต้นที่ถ่ายทอดผ่านมุมมองที่มีเอกลักษณ์ของแอนดี้ มุสเชียตติ

ตัวละครเดอะ แฟลชควรได้รับการถ่ายทอดอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ ในช่วงปี 1940 เป็นที่รู้จักในฐานะที่  “มีความว่องไวกว่าความคิด” ใน Flash Comics #1 เขาถูกสร้างขึ้นมาโดยนักเขียน การ์ดเนอร์ ฟอกซ์ และศิลปินแฮร์รี่ แลมเพิร์ท

ต่อมา Fox จับมือกับคาร์ไมน์ อินแฟนติโน่ในผลงานปี 1961 ที่มีชื่อว่า Flash of Two Worlds ทำให้เดอะ แฟลชเป็นตัวละครแรกในหนังสือการ์ตูนที่อยู่ในมัลติเวิร์ส เมื่อแบร์รี่ อัลเล็นในยุคเงินเดินทางย้อนเวลากลับไปพบกับเจย์ แกร์ริคในยุคทอง จึงเกิดการรังสรรค์ไอเดียที่สานต่อเรื่องราวและจินตนาการจนถึงวันนี้ รวมถึงทีมนักแสดงและผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีพรสวรรค์เบื้องหลังเรื่อง “The Flash”   


 
พูดคุยกับผู้สร้างภาพยนตร์: 

แรงบันดาลใจที่มีต่อเรื่อง “The Flash”…
แอนดี้ มุสเชียตติ: สำหรับผมเป็นเรื่องความไร้เดียงสาที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวที่มีการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ มีพื้นฐานเรื่องราวบางอย่างที่สะเทือนใจ เป็นเรื่องราวระหว่างเด็กคนหนึ่งกับแม่ของเขา ซึ่งหากไม่มีเรื่องนั้นก็ไม่มีทางจะสร้างอะไรที่เป็นจุดเด่นขึ้นมาได้ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากดูในหนัง เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกชื่นชมและมีความเป็นหนังที่ผมอยากสร้างขึ้นมา นี่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นหลัก มีพลังมากพอที่จะขยายสู่การผจญภัยในมิติเหล่านี้

แน่นอนว่าการสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่สักเรื่องเหมือนการเดินทางย้อนกลับไปหาวัยเด็ก เพราะนั่นเป็นช่วงที่ชีวิตวนเวียนกับหนังสือการ์ตูนมากกว่าตอนนี้ มันมีความหมายมากเหมือนกับที่เรื่อง IT สะท้อนถึงตัวผมในช่วงวัยรุ่น นั่นเป็นหนังสือที่ฝังใจผมมานาน “The Flash” พาผมไปหาวันเวลาที่ผมจะซื้อหนังสือการ์ตูน ส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์แมนและแบทแมน แต่เดอะ แฟลชก็ยังวนเวียนอยู่เสมอ มันเป็นช่วงเวลาอันงดงามที่จะได้นำ “The Flash” มาสร้างให้มีชีวิตและเป็นความท้าทายที่น่าสนุก

บาร์บาร่า มุสเชียตติ: ฉันรักดีซีมาโดยตลอดตั้งแต่ตอนเป็นเด็กค่ะ ใน the Flash มีความเป็นเด็กบางอย่างที่ฉันคิดว่าเราจะหลงใหลในฐานะของเด็กคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธไม่ลงเลย ฮีโร่ทุกคนมักจะดูรอบคอบ มีความแข็งแรงและยากจะเอาชนะได้ ซึ่งนั่นตรงกันข้ามกับเดอะ แฟลช เพราะมีทั้งความรัก มุกตลก เปิดกว้าง และมีความขัดแย้งในตัวในแบบที่... ฉันรักในความเป็นมนุษย์มากค่ะ แต่ยิ่งมากขึ้นในความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ฉันกำลังจะบอกว่าเดอะ แฟลชเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ฉันชอบเพราะเขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูมีความเป็นมนุษย์มากที่สุดค่ะ

เอซร่า มิลเลอร์ในบทเดอะ แฟลช…
แอนดี้ มุสเชียตติ: การได้พบกับเอซร่านับว่าเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อทั้งในแง่ศิลปะและความสร้างสรรค์ ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดของการร่วมงานกับนักแสดง และผมว่าพวกเขายังเป็นนักแสดงตลกที่น่าทึ่งมากอีกด้วย มีหลายอย่างที่ผมคาดไม่ถึง เอซร่าเคยถ่ายทอดความตลกเอาไว้ในบทแบร์รี่ อัลเล็นจากหนังเรื่องก่อน แต่ในเรื่องนี้เป็นหนังแยกเดี่ยวออกมา เอซร่าไม่ได้เป็นแค่พระเอก แต่ยังต้องรับบทแบร์รี่ 2 เวอร์ชันที่มีความท้าทายมากด้วย ตอนที่เห็นเอซร่าแสดงเหมือนจะดูง่ายมาก เรียกว่าเป็นโชคดีที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาและเห็นพรสวรรค์อันเหลือเชื่อของพวกเขา

บาร์บาร่า มุสเชียตติ: ฉันรู้ว่านักแสดงหลายคนอยู่ในวงการมานานแล้ว ฉันคิดไม่อกว่าใครจะถ่ายทอดเดอะ แฟลชได้แบบนี้อย่างที่แอนดี้กับฉันนึกภาพเอาไว้ แต่นั่นคือเอซร่าที่ถ่ายทอดพลังและมีความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่ง ฉันไม่เคยเห็นนักแสดงที่ทุ่มเทอย่างหนักแบบนี้ ฉันรู้จักนักแสดงที่ทำงานหนักหลายคนค่ะ แต่สิ่งที่เอซร่าถ่ายทอดออกมาในเรื่องนี้เหลือเชื่อมาก พวกเขาต้องควบสองตัวละครกว่า 80% ในเรื่อง และนั่นหมายความว่าพวกเขาเหมือนถ่ายหนัง 2 เรื่องในช่วงเวลาเดียวกัน มันเหลือเชื่อมากค่ะ

ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่…
บาร์บาร่า มุสเชียตติ: นี่เป็นหนังที่ใหญ่ที่สุดจากที่เราเคยทำมา ไม่เคยนึกภาพเลยว่าจะเป็นโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ ตอนที่เราถ่ายทำเรื่อง “Mama” ใช้เวลาถ่ายทำกัน 42 วัน เรื่อง “IT” ใช้เวลา 60 วันและเรื่อง “IT Chapter Two” ใช้เวลา 80 วัน หลังจากนั้นฉันก็เห็นภาพตารางทำงานทั้งหมดในหัว สำหรับเรื่องนี้มันไม่เป็นแบบนั้นเลย

สำหรับผู้อำนวยการสร้างฯ และใครสักคนแบบฉันที่ชอบการวางแผน ต้องเรียนรู้การปล่อยวางและพูดว่า “ฉันรู้ตารางงานคร่าวๆ และเข้าใจดีว่าเดี๋ยวจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม ต้องเรียนรู้การปล่อยวาง” ฉันเป็นส่วนหนึ่งที่รับมือความวุ่นวายของเรื่องนี้ [ผู้อำนวยการสร้างฯ] ไมเคิล ดิสโก้ พวกเราคือทีมเดียวกันอย่างแท้จริง ฉันเคยเป็นผู้สร้างฯ เดี่ยวมาแล้วหลายครั้ง แต่เรื่องนี้ฉันไม่สามารถทำได้ นี่เป็นการรวมพลังความสามารถที่ต้องอาศัยพวกเราทั้งคู่ค่ะ

การได้ร่วมงานกับไมเคิล คีตัน…
แอนดี้ มุสเชียตติ: ไมเคิลเป็นคนที่ดูเท่มากในโลก เขาสงสัยหลายอย่างเรื่องการกลับมารับบทแบทแมนอีกครั้ง ผมตื่นต้นมากและคิดว่าเราพยายามขายบางอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน แต่สุดท้ายเรารู้ดีกว่านั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ ตอนที่เขาตอบ “ได้เลย” เราทุกคนตื่นเต้นกันมาก หลังจากนั้นก็เกิดจินตนาการภาพของเขาหลายอย่าง พยายามนึกภาพว่าตัวละครของเขาควรมีหน้าตาแบบไหน

ตัวละครของเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อผ่านไป 25 ปีนับตั้งแต่เจอเขาล่าสุด และเป็นความท้าทายที่สนุกมาก เขาพร้อมรับมือกับความท้าทายนั้นสุดตัว นี่คือตัวละครที่มีหลายมิติมาก คำถามสำคัญคือบรูซ เวย์นควรเป็นอย่างไรเมื่อผ่านไป 25 ปี นั่นคือจุดเริ่มต้นของการพูดคุยกัน เราเริ่มพูดถึงความโดดเดี่ยว และเสน่ห์ของไมเคิลในบทนั้นแบบที่ไม่เคยมีใครเห็นในร่างแบทแมนมาก่อน ความท้าทายนั้นทำให้เขาได้พบกับความลงตัวอย่างงดงาม 

คีตันกลับมาสวมชุดอีกครั้ง…
บาร์บารา มุสเชียตติ: แน่นอนว่าเป็นช่วงที่ส่งผลต่อความรู้สึกเขาและพวกเราในฐานะแฟนๆ อย่างพวกเรา ผมเชื่อว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ครั้ล่าสุดที่เขาสวมชุดนั้น เขาบอกเราว่าลูกชายของเขา ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ใหญ่แล้วและเป็นนักแต่งเพลงที่เก่ง ตอนนั้นเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ ตอนที่เขาสวมชุดนั้น และเขายังดูดีแม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว! ครั้งนี้ที่เขาสวมชุดนั้นเขามีหลานแล้ว 

แอนดี้ มุสเชียตติ: การกำกับไมเคิลเป็นสิ่งที่สนุกมากครับ มักเริ่มจากการพูดคุยกันเรื่องตัวละคร เนื้อเรื่อง และอารมณ์ความรู้สึกของเขา ผมเคารพในการทำงานของเขามาก เพราะเขาเคยรับบทตัวละครมาก่อน ผมอยากได้ยินทุกอย่างที่เขารู้สึกต่อตัวละคร จึงเป็นการสร้างบรรยากาศการพูดคุยที่ลื่นไหลมากขึ้นมา แน่นอนว่าต้องมีเรื่องชีวิตของบรูซ เวย์นช่วง 30 ปีต่อมาด้วย เราพูดคุยกันหลายเรื่องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จนมาถึงวันที่มีการถ่ายทำ ผมพยายามจะไม่ก้าวก่ายเขาในฐานะนักแสดงมากนัก ผมดีใจมากที่เขาถ่ายทอดบรูซ แบทแมน และเรื่องราวในส่วนอื่นออกมาได้

บาร์บารา มุสเชียตติ: ขอเสริมว่า... ความดีงามในการเฝ้ารอ 30 ปีเพื่อรับบทนี้ คืออเล็กซานดรา เบิร์น ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายของเราที่สามารถทำให้ชุดของเขาสบายตัวขึ้นเยอะ ทำให้เขาขยับศีรษะและขาได้สักที!

การทำงานในโลกคู่ขนาน…
แอนดี้ มุสเชียตติ: โลกคู่ขนานทำให้โลกทุกใบอยู่ร่วมกันได้โดยปราศจากความขัดแย้ง คารพในโลกและความงดงามของแบทแมนแต่ละแบบ เช่น แบทแมนของคีตันคือ “การสร้าง” แบทแมนขึ้นมาในแบบที่สานต่อความเป็นแบทแมนเมื่อ 10 ปีก่อนจากที่เราเคยเห็นในหนัง เราพยายามบาลานซ์อย่างดีที่สุดเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเล่นสด มุกตลก ฉากแอ็คชั่น ผจญภัย และมีการดัดแปลงได้ จากนั้นจึงนำกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริง

สำหรับการสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา โลกคู่ขนาน นับเป็นความท้าทายมากเลยครับ แบร์รี่ได้พบกับตัวเองตอนยังอายุน้อย เป็นช่วงที่ยังรับมือกับความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องเผชิญไม่ได้ เอซร่าต้องเล่นควบ 2 บทที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าความสนุกสนานเกิดขึ้นเพราะเรื่องราวตรงนั้น แต่เรานึกภาพความท้าทายไม่ออกหรอกจนกระทั่งเริ่มการถ่ายทำ ผลงานที่ออกมาคือตัวบ่งบอกความเป็นนักแสดง พวกเขาสามารถสร้างมุกตลกในบรรยากาศนั้นที่ไม่ธรรมดาสำหรับเขาได้

การร่วมมือกันสร้างจินตนาการ…
บาร์บารา มุสเชียตติ: ฉันร่วมงานกับน้องชายตัวเองค่ะ เพราะฉันชื่นชมเขาและได้ความเป็นมืออาชีพจากการทำงานร่วมกับเขา เพราะฉันเชื่อมั่นในความเป็นศิลปินและตัวตนของเขา ภาพที่เห็นตอนนี้ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเลยค่ะ เพราะฉันรู้ว่าเขาต้องสร้างมันขึ้นมาได้แน่นอน มันทำให้ฉันภูมิใจมากที่น้องชายตัวเองได้กำกับหนังฟอร์มยักษ์ และสร้างหนังระดับนี้โดยที่ไม่ทิ้งจินตนาการของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการผจญภัยครั้งใหญ่ ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความสมจริงและเต็มไปด้วยความรู้สึก... นี่คือหนังที่เกี่ยวกับความรักระหว่างแม่กับลูกจริงๆ ค่ะ

แอนดี้ มุสเชียตติ: สำหรับผมมีหลายช่วงเวลาสำคัญที่ไม่ว่าเราจะพยายามกันอย่างหนักขนาดไหน แบร์รี่มักจะทำอะไรได้เหนือกว่าที่มนุษย์จะทำได้ เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตหรือสร้างช่วงเวลาที่งดงามได้ อนาคตจะไม่เหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น เราต้องสร้างความสงบให้เกิดขึ้นตั้งแต่ปัจจุบัน 

การผจญภัยของแบร์รี่…
เอซร่า มิลเลอร์: ในเรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับเรื่องพื้นฐานของมนุษย์ทั่วไป แบร์รี่เจ็บปวดจากการพยายามแก้ไขอดีตของตัวเอง และนี่คือการผจญภัยของเขา เขาไม่เคยทิ้งความหวังว่าจะแก้ไขสิ่งที่ทำลงไปแล้ว และหาความสมดุลระหว่างความหวังอันไร้ขีดจำกัดของเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารักในตัวเขา และเรื่องการยอมรับว่านั่นอาจกระทบอนาคตได้

การถ่ายทอดบทซูเปอร์เกิร์ล…
ซาช่า แคลล์: ฉันคิดว่าเธอเป็นฮีโร่ที่มีความซับซ้อนแต่ดูงดงามค่ะ เธอมีความหมายสำหรับฉันมาก เพราะบางครั้งฉันก็มองความซับซ้อนของตัวเองเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ฉันคิดว่าเราควรเป็นตัวของตัวเอง แต่เมื่อฉันมาสวมบทบาทของเธอ เธอเป็นคนที่มีความซับซ้อนหลายอย่างและนั่นก็เป็นเรื่องที่โอเคค่ะ... ฉันรักตัวเธอในจุดนั้น เธอเป็นคนเข้มแข็ง เท่ และหนักแน่นมาก เธออยู่ในจุดที่อยากตามหาครอบครัวของตัวเอง คาล-เอล ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เธอเจ็บปวด ฉันรักการรับบทนี้เพราะเธอให้ความใส่ใจอย่างงดงามและอ่อนโยน 

การได้รับเสนอบทโนร่า อัลเล็น…
มาริเบล เวอร์ดู: ฉันจำได้ว่าบาร์บาร่าโทรหาเอเจนท์ของฉันค่ะ หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้พบกับแอนดี้ครั้งแรก เราคุยกันเกือบ 3 ชั่วโมงทั้งเรื่องชีวิต เตกิล่า เทนนิส เรื่องราวต่างๆ ในชีวิต พอผ่านไป 3 ชั่วโมงเขาคุยกับฉันเรื่องโปรเจ็กต์นี้ ฉันช็อคมากค่ะ เขาเสนอบทโนร่า อัลเล็นให้กับฉัน ฉันถามเขาว่า “ทำไมต้องเป็นฉัน?” เขาตอบ “ผมอยากให้โนร่ามีแววตาและท่าทางแบบคุณ”

ฉันตอบว่า “โอเค ถ้าคุณอยากให้ฉันรับบทโนร่าก็ได้เลย ตกลงแน่นอน!”  เพราะหลังจากที่คุยกับแอนดี้ 3 ชั่วโมง ฉันรู้ว่าเขาต้องกลายเป็นเพื่อนของฉันได้ ไม่ใช่แค่ผู้กำกับฯ เราเข้าใจกันได้อย่างเหลือเชื่อ เราคิดตรงกันหลายอย่าง ฉันมาอยู่ตรงนี้ได้เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวฉัน และบาร์บาร่าเองก็เช่นกัน ฉันต้องขอบคุณตรงนั้นจริงๆ ค่ะ

ความแตกต่างระหว่างแบร์รี่ อัลเล็น/เดอะ แฟลช…
เอซร่า มิลเลอร์: สิ่งที่ผมชอบในตัวเขาคือรู้สึกว่าในตัวมีหลายบุคลิกที่ทำให้เขาต่างจากคนอื่น ผมสนุกกับการที่เขามีจุดอ่อน ไม่ค่อยมั่นใจตัวเอง และไม่วางตัวว่าเราเป็นกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ และสิ่งที่ผมรักเดอะ แฟลชในฐานะซูเปอร์ฮีโร่คือด้วยพลังพิเศษของเขาคือเรื่องความว่องไว แต่เมื่อรวมกับความฉลาดของเขาแล้ว ยิ่งทำให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นไปอีกครับ

หลากหลายมุมของไอริส เวสต์…
เคียร์ซีย์ เคลมอนส์: ไอริสมีหลายเวอร์ชันที่ต่างกันไป แต่มักจะมีคุณสมบัติเรื่องความแกร่งและความมั่นคงเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีลูกเล่นได้หลายมุม ฉันอยากถ่ายทอดความแกร่งที่ยังมีความอ่อนแอบางอย่างออกมา นั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันสนใจมาก และฉันหลงใหลในความอ่อนโยนที่เธอมีต่อแบร์รี่ แต่แน่นอนว่าเธอยังคงเป็นนักข่าวที่ดุดันและมีความกระตือรือร้น เธอมีอีกหลายมุมที่ทำให้เธอดูขี้สงสาร ซึ่งคุณจะเห็นผ่านการแสดงของพวกเขาที่ดูมีความพิเศษมาก

ความต่างในตัวซูเปอร์เกิร์ล…
ซาช่า แคลล์: ซูเปอร์เกิร์ลไม่ใช่ฮีโร่ที่เพอร์เฟ็กต์ค่ะ เธอมีความแปลกในทุกด้าน เธอไร้บ้าน มาจากจุดที่กำลังหาความปลอดภัยจนมาเจอที่นี่ เธอเจ็บปวดและทรมานจากสิ่งที่เคยพบเจอ โดยเฉพาะหลังจากที่ต้องเสียพ่อกับแม่และโลกของเธอไป ตอนที่อ่านบทฉันรู้สึกทึ่งและคิดว่า “เรื่องนี้มีทุกอย่างที่ฉันเคยอยากเล่นเลย”

แอนดี้กับฉันเห็นตรงกันว่าเธอมีความเป็นมนุษย์สูงมาก เราอยากให้เธอได้สำรวจและค้นพบกับมัน ในฐานะที่มาจากต่างถิ่นฉันคิดว่าเธอได้สัมผัสกับหลายสิ่งมากกว่าคนอื่น 10 เท่า มีความกดดันมากกว่า 10 เท่า เจ็บปวดมากกว่า 10 เท่า แบกรับภาระมากกว่า 10 เท่า โดดเดี่ยวมากกว่า 10 เท่า ฉันรู้สึกโชคดีและตื่นเต้นที่ทุกคนจะได้พบกับเธอ ฉันคิดว่ามีบางอย่างที่เหมือนเธอตอนที่ฉันยังเด็กนะคะ ฉันภาวนาจะมีซูเปอร์เกิร์ลแบบนั้น

สายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างโนร่าและแบร์รี่…
มาริเบล เวอร์ดู: สิ่งที่ฉันรู้คือพวกเขารักกันมาก ฉันคิดว่าโนร่าโชคดีมากที่มีเขา และแบร์รี่ก็โชคดีมากเช่นกันที่มีคุณแม่ เพราะระหว่างพวกเขาคือสายสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย เสียงหัวเราะ และความเข้าใจ พวกเขารักกัน แบร์รี่มีพลังวิเศษ เขาต่างจากเด็กผู้ชายคนอื่น เขาชื่นชมแม่ของตัวเองมาก และแม่ของเขาเองก็เชนกัน พวกเขามีช่วงเวลาพิเศษร่วมกัน ได้ทำพาสต้า ร้องเพลง เต้นรำ ระหว่างพกเขามีความพิเศษมากf 

เสน่ห์ของซูเปอร์ฮีโร่…
เคียร์ซีย์ เคลมอนส์: โลกแห่งความจริงของเราดูจะมีทั้งคนที่เป็นฮีโร่และคนที่เป็นวายร้าย มันเหมือนกลไกที่เราใช้เวลารู้สึกเสียใจหรือสับสน เราต้องเจอกับศัตรูและหากโชคดีก็จะได้พบกับฮีโร่ นั่นหมายถึงคนที่รักคุณ ฉันคิดว่าหลายคนจะหลงใหลกับเนื้อเรื่องแนวนี้ เพราะมันช่วยเยียวยาความรู้สึกในบางมุม

หลายครั้งผู้ที่สร้างเรื่องราวดีๆ อาจไม่ใช่คนที่น่าชื่นชมหรือยกย่องอะไรขนาดนั้น พวกเขาต้องพิสูจน์ตัวเองหลายต่อหลายครั้ง อาจเป็นเพียงคนนอกสายตาหรือคนที่หาคำมาเปรียบเทียบไม่ได้ แม้เราจะเรียนจบไฮสคูลหรือย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ยังเจอคนแบบนั้น ชีวิตยังคงวนเวียนแบบนั้น และฉันคิดว่าในโลกของซูเปอร์ฮีโร่มีประเด็นสำคัญที่ตรงนั้น เป็นเรื่องราวที่สำคัญเหนือกว่าทุกสิ่ง จริงมั้ย?

เดอะ แฟลช ในฐานะกุญแจสำคัญ…
เอซร่า มิลเลอร์: แบร์รี่ อัลเล็นเหมือนกุญแจสำคัญ เพราะเขาทำลายขีดจำกัดเรื่องความไวเหนือแสงและอีกหลายอย่าง เขาเหมือนกลไกของส่วนประกอบที่เราสัมผัสได้ ทำให้เข้าใจมัลติเวิร์สในโลกของดีซี โดยเฉพาะไอเดียเรื่องมัลติเวร์สที่มาจากทฤษฎีควอนตัมปัจจุบัน นี่เป็นประเด็นสำคัญที่ผู้คนอาจเห็นภาพจุดที่เราอยู่ได้สมจริงมากขึ้น ซึ่งมันเกิดขึ้นกับทุกสิ่งที่มีอยูบนโลก และเราต้องวนเวียนพบเจอกับมัน มีเรื่องราวความเป็นมาที่ยาวนานเกี่ยวกับเดอะ แฟลชที่เป็นกลไกสำรวจทฤษฎีควอนตัมที่ต่างออกไป แต่หนึ่งในทฤษฎีหลักคือสิ่งที่จะได้สำรวจใจหนังเรื่องนี้ 

ภาพลักษณ์ของซูเปอร์เกิร์ล…
ซาช่า แคลล์: สำหรับการพัฒนาภาพลักษณ์ของซูเปอร์เกิร์ลต้องใช้ทั้งความคิด ความรัก และเวลาจากแผนกเครื่องแต่งกาย ไปจนถึงเรื่องทรงผม แต่งหน้า และนักแสดงผาดโผน เพราะการแสดงผาดโผนของตัวละครนั้นเยอะมาก ทุกอย่างต้องมารวมอยู่ด้วยกัน ตอนที่มีการถ่ายภาพนิ่งตัวละครของฉัน ฉันถามอเล็กซ์ผู้ผลิตเสื้อผ้าว่า “คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง? ภูมิใจและมีความสุขไหม?” เธอตอบว่า “แน่นอน” นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ ทุกคนแฮปปี้กับผลงานที่พวกเขาสร้างขึ้นมา ภาพลักษณ์และอารมณ์ของชุดที่ถ่ายทอดออกมามันเหลือเชื่อมาก ฉันรักมันมากเลยค่ะ คิดว่าเธอไม่ธรรมดาเลยล่ะ เธอดูเท่และชุดก็ดูสวยมากค่ะ

รายละเอียดการถ่ายทำ
การสร้างภาพยนตร์เรื่อง THE FLASH ผู้สร้างภาพยนตร์กำหนดผลงาน 2 ส่วนสำคัญจากหนังสือการ์ตูน:
•    Flash of Two Worlds (การ์ดเนอร์ ฟ็อกซ์ และ คาร์ไมน์ อินแฟนติโน่, 1961) ที่ซิลเวอร์ เอจ แบร์รี่ อัลเล็น พบว่าการสั่นสะเทือนของโมเลกุล ทำให้เขาเดินทางสู่โลกในอีกแบบหนึ่งได้ จนเขาได้พบกับโกลเด้น เอจ เจย์ การ์ริค 

•    Flashpoint (เจฟฟ์ จอห์นส และ แอนดี้ คูเบิร์ท, 2011 มินิซีรีส์ 5 ตอน) แบร์รี่ อัลเล็นตื่นขึ้นมาพบวาโลกของเขาเปลี่ยนไป เขารับรู้เพียงความแตกต่างระหว่างโลกแห่งความจริงของเขากับอีกโลกหนึ่ง

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์ผลงานจาก a Double Dream/a Disco Factory production ภาพยนตร์ของแอนดี้ มุสเชียตติ เรื่อง “The Flash” จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส มีกำหนดเปดตัวในโรงภาพยนตร์อเมริกาเหนือ 16 มิถุนายน 2023 และในต่างประเทศเริ่ม 14 มิถุนายน 2023