DSI ร่วมกับกรมศุลกากรตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบนำเข้า จากต่างประเทศกว่า 50,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 9 ล้านบาท
พลตำรวจโทรุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผศ.ดร. อัครนันท์ อริยะศรีพงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโทอนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร พร้อมด้วย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร นางสาวสุนทรี ทวิชาประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับกรมศุลกากรตรวจยึดสินค้าผ่านแดนในตู้สินค้า รวมทั้งหมด 7 ตู้ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้งจำนวน 46,260 ชิ้น มูลค่ารวม 9,252,000 บาทจึงได้ทำการตรวจยึดไว้ของกลาง อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 เรื่องพิธีการศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ข้อ6

ทั้งนี้ของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวกรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเป็นทางการอีกครั้งเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินคดีโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผลไปยังตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุนภายใต้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนของประเทศ การปฏิบัติการในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงานเชิงรุกเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง หากประชาชนพบเห็นเบาะแส การลักลอบหรือจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อร่วมกันปกป้องสังคมไทยให้ปลอดภัยจากสิ่งผิดกฎหมาย
