“ครบรอบ 23 ปี กรมทะเล” เดินหน้ายกระดับการจัดการทะเลและชายฝั่ง ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์สู่ทะเลไทย

“ครบรอบ 23 ปี กรมทะเล” เดินหน้ายกระดับการจัดการทะเลและชายฝั่ง ฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์สู่ทะเลไทย

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จัดงานวันสถาปนากรม ครบรอบ 23 ปี โดยมี ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมมอบกรมธรรม์ประกันภัยให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล มอบรางวัลประเมินการส่งเสริมคุณธรรมระดับองค์กรคุณธรรมต้นแบบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 14 หน่วยงาน มอบรางวัลให้ผู้มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2568 (คนดีศรี ทช.) และมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” แก่ผู้ที่ทำคุณงามความดีด้านการสงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรทางทะเลหรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการนี้มีนายอุกกฤต สตภูมินทร์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากกรม ทช. และหน่วยงานร่วมแสดงความยินดี เข้าร่วมงาน ณ ห้อง BM ชั้น 5 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 23 ปี กรมฯ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และพร้อมขานรับนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเตรียมดำเนินการยกระดับการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ติดตามทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างแม่นยำและทันสมัย ส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวทางทะเลอย่างยั่งยืน คำนึงถึงความสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ–สังคม–สิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทะเลยังคงความสมบูรณ์และสร้างรายได้แก่ชุมชนในระยะยาว นอกจากนี้ยังบูรณาการข้อมูลและศักยภาพของหน่วยงานภายใน รวมถึงพัฒนาระบบฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบบเฝ้าระวัง–เตือนภัย และระบบรายงานสถานการณ์ เพื่อรองรับและรับมือภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเข้าถึงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ตลอดจนยกระดับการบริการประชาชนและดูแลบุคลากร ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการให้บริการที่โปร่งใส รวดเร็ว และมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสวัสดิการให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“ตลอดกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา ทะเลและชายฝั่งของไทยค่อย ๆ ฟื้นคืนพลังจากความพยายามอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปลูกป่าชายเลนแล้วกว่า 175,509 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 24 จังหวัด กลายเป็นเกราะธรรมชาติที่ปกป้องคลื่นลมและเป็นแหล่งอาชีพของชุมชนชายฝั่ง แก้ไขปัญหากัดเซาะชายฝั่งด้วยไม้ไผ่ชะลอคลื่น 101,465 เมตร เกิดตะกอนหลังแนวปักไม้ไผ่ จำนวน 336,505 ลูกบาศก์เมตร และทวงคืนพื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกบุกรุกกว่า 69,248.84 ไร่ ทำให้พื้นดินที่เคยสูญหายกลับมามั่นคง สร้างความมั่นใจแก่พื้นที่เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และผู้คนที่อาศัยอยู่ริมทะเล สำหรับด้านการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล ได้จัดวางปะการังเทียม 171 พื้นที่ 164,790 แท่ง ปลูกเสริมปะการัง จำนวน 840 ไร่ 1,270,216 โคโลนี จัดวาง Reef Ball จำนวน 2,777 แท่ง ฟื้นฟูหญ้าทะเล รวม 7 จังหวัด 300 ไร่ 384,000 ต้น ตลอดจนติดตั้งทุ่นผูกเรือทั้ง 14 จังหวัด จำนวน 1,159 จุด ทุ่นแสดงแนวเขต 16,000 เมตร และกำหนดเขตพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและชายฝั่ง ตามมาตรา 20 และมาตรา 22 พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง ระนอง ภูเก็ต และปัตตานี นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการเก็บขยะทะเลที่ตกค้างในระบบนิเวศแบบมีส่วนร่วม 2,968,655 ตัน พร้อมดำเนินโครงการป่าในเมือง สวนป่าประชารัฐเพื่อความสุขของคนไทยทั่วประเทศ 53 พื้นที่ 36,675 ไร่ และในปัจจุบันมีจำนวนอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล 29,621 คน ชุมชนชายฝั่ง 722 กลุ่ม 18,609 คน ซึ่งล้วนเป็นพลังสำคัญในการปกป้องและฟื้นฟูทะเลไทย ช่วยคืนความอุดมสมบูรณ์ให้ทะเลไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม“

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการ โดยรวบรวมภารกิจที่เกี่ยวข้องกับทะเลและชายฝั่งซึ่งเดิมอยู่ภายใต้หน่วยงานอื่นมาไว้ ณ ที่เดียวกัน ผ่านพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ซึ่งปัจจุบัน กรมฯ อยู่ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย สำนักงานเลขานุการกรม กองกฎหมาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กองอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง กองอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล กองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1-10 ครอบคลุมการทำงานด้านอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งปกป้อง คุ้มครองสัตว์ทะเลหายาก ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อความมั่งคั่ง สมดุล และยั่งยืนของทะเลไทย ตลอดจนเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยวิสัยทัศน์ “พิทักษ์ รักษา สร้างคุณค่าทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ด้วยพลังสังคม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและวิถีชีวิตที่ยั่งยืน”

TAGS: #กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง #ทช #ปิ่นสักก์สุรัสวดี #23ปีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง