“เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568” (BKKIFF 2025) เตรียมเปิดม่านขนภาพยนตร์ 200+ เรื่องจากทั่วโลกฉายตลอด 19 วัน พบกิจกรรมไฮไลต์ “ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก” และ “ตลาดหนัง”
“เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568” (BKKIFF 2025) ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ THACCA (Thailand Creative Culture Agency) กลับมาอีกครั้งในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ ระดมหนังมากกว่า 200 เรื่องจาก 40 ประเทศทั่วโลกเข้าเทศกาลจัดฉายตลอด 19 วัน (27 กันยายน – 15 ตุลาคม 2568) ประเดิมหนังเปิดเทศกาลกับ “ธี่หยด 3” รอบปฐมทัศน์ และหนังปิดเทศกาล “KOKUHO” สุดยอดหนังญี่ปุ่นแห่งปี คอหนังเตรียมรับชมกิจกรรมไฮไลต์ “ภาพยนตร์ประกวด” 4 สาขา และร่วมลุ้นผลตัดสินจากคณะกรรมการระดับโลก สำหรับคนวงการภาพยนตร์ห้ามพลาด “ตลาดหนัง” ที่จะรวมพลผู้ซื้อและนักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศมาไว้ในงานเดียว มี International Buyers จากทั่วโลก และบูธของผู้สร้างภาพยนตร์ไทยไม่ว่าจะเป็นค่ายหนัง บริษัทที่ให้บริการด้านภาพยนตร์ บริษัทโพสต์โพรดักชั่น กว่า 50 บูท พร้อมเวทีสัมมนา-เวิร์กช็อป-กิจกรรมสร้างเครือข่ายที่จะช่วยยกระดับวงการภาพยนตร์ไทยและนานาชาติไปอีกขั้น ติดตามข้อมูลทั้งหมดได้ที่ https://bkkiff.co
นายดรสะรณ โกวิทวณิชชา ผู้อำนวยการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568 กล่าวว่า “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพมหานคร 2568” (BKKIFF 2025) ที่กลับมาจัดขึ้นอีกครั้งหลังผ่านไปนานถึง 17 ปี กำลังเริ่มนับถอยหลังเพื่อเตรียมเปิดม่านต้อนรับคนวงการภาพยนตร์และเหล่าคนรักหนัง โดยครั้งนี้เทศกาลฯ จะกลับมาด้วยภาพลักษณ์ใหม่ มีเป้าหมายเพื่อปักหมุดให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงแห่งภาพยนตร์ของภูมิภาคอาเซียน ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดให้บุคลากรวงการภาพยนตร์ทั้งในประเทศไทย ระดับภูมิภาค จนถึงระดับโลกเข้าร่วมงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันและนำไปสู่ความเข้มแข็งของภาพยนตร์ในภูมิภาค
นางพิมพกา โตวิระ Executive Director ผู้ดูแล “ตลาดหนัง” มองว่า อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยแทบทุกภาคส่วนต่างมีศักยภาพในระดับนานาชาติ ดังนั้น การจัดตลาดหนังในครั้งนี้จะเอื้อให้ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์และผู้ผลิตจากต่างประเทศได้มีโอกาสสังสรรค์กับนักสร้างภาพยนตร์ชาวไทย เปิดโอกาสแลกเปลี่ยนมุมมองนำไปสู่การผลักดันสร้างความต้องการให้เขาเหล่านั้นสนใจร่วมงานกับทีมชาวไทยต่อไปในอนาคต
“BKKIFF 2025” จะจัดขึ้นรวมทั้งสิ้น 19 วัน ระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 15 ตุลาคม 2568 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้
เทศกาลจัดฉายภาพยนตร์ พร้อมไฮไลต์ “หนังเปิด-หนังปิด” ประจำเทศกาล
เตรียมพบกับการจัดฉายภาพยนตร์ที่ได้รับการคัดสรรจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งภาพยนตร์นานาชาติที่ประสบความสำเร็จจากเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกในรอบปี ภาพยนตร์แนวทดลอง ภาพยนตร์สารคดี ภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อดัง ภาพยนตร์สั้น ภาพยนตร์คลาสสิกทั้งไทยและเทศ ตลอดจนการฉายภาพยนตร์รอบเที่ยงคืนเฉพาะกลุ่มหนังแนวสยองขวัญ/ระทึกขวัญ โดยกระจายรอบฉายในโรงภาพยนตร์ 6 แห่ง ได้แก่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์, เอส เอฟ ซีเนม่า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์, เฮ้าส์ สามย่าน, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท เอกมัย และลิโด้ คอนเน็คท์
พร้อมกับไฮไลต์ประจำทุกเทศกาลภาพยนตร์ BKKIFF 2025 ได้คัดเลือกภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” ให้เป็น “หนังเปิดเทศกาล” โดยจะฉายรอบปฐมทัศน์ในพิธีเปิดวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่โรงภาพยนตร์ ไอคอน ซีเนคอนิค ไอคอนสยาม
• ธี่หยด 3 – ภาพยนตร์มหากาพย์แอ็คชันสยองขวัญที่จะถ่ายทอดเรื่องราวบทใหม่ของครอบครัวตัว ย. เมื่อ ยี่ น้องสาวคนเล็กของบ้านถูกผีจับตัวไป ทำให้ ยักษ์และจ่าปพันธ์ต้องออกเดินทางเพื่อตามหายี่กลับมาก่อนที่เรื่องเลวร้ายจะเกิดขึ้น แต่การเดินทางครั้งนี้จะพาพวกเขาไปพบกับจุดเริ่มต้นของความสยองเกินคาดเดาบนเส้นทางสุดลึกลับและอันตราย
ด้าน “หนังปิดเทศกาล” BKKIFF 2025 ได้ดึง “KOKUHO” ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากนักวิจารณ์ให้เป็นหนังญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในรอบหลายปีและสะท้อนเอกลักษณ์ของชาวเอเชียมาเข้าฉายในพิธีปิดวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์
• KOKUHO – ผลงานการกำกับล่าสุดของผู้กำกับญี่ปุ่นเชื้อสายเกาหลี “อีซังอิล” ซึ่งได้นำเรื่องราวภายในวงการละครคาบูกิ มาตีแผ่ให้เห็นถึงวิถีและจิตวิญญาณของศิลปินชั้นครูของศาสตร์การแสดงระดับสูงที่สะท้อนวัฒนธรรมญี่ปุ่น ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งในสายประกวดและรายได้โดยทำเงินจากการเข้าฉายได้มากกว่า 10,000 ล้านเยน (ประมาณ 2,150 ล้านบาท) ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ประเภทใช้ผู้แสดงจริงที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์วงการหนังญี่ปุ่น
คอหนังเตรียมตีตั๋วชม “ภาพยนตร์ประกวด” 4 สาขา
ภายในเทศกาลฯ จะมีการจัดฉายและประกวดภาพยนตร์รวม 4 สาขา โดย สาขาภาพยนตร์นานาชาติ (International Competition), สาขาภาพยนตร์จากผู้กำกับหน้าใหม่ (New Voices), และ สาขาภาพยนตร์สั้นจากผู้กำกับรุ่นใหม่ในเอเชีย (Asian Short Film Competition) ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 11 ท่าน ร่วมตัดสินการประกวดภาพยนตร์ครั้งนี้ ได้แก่ คงเดช จาตุรันต์รัศมี, อโนชา สุวิชากรพงศ์, วิมุคธี ชยสุนทารา, โสฬส สุขุม, คามิลา อันดินี, โทนี่ บุย, สมพจน์ ชิตเกสรพงศ์, วูหมิงจิน, แมตตี้ โด
สำหรับสาขาภาพยนตร์ไทย (Thai Panorama) จะเป็นการประกวดเพื่อชิงรางวัล “Audience Choice Award” โดยผู้เข้าชมในแต่ละรอบฉายของภาพยนตร์ไทยที่เข้าประกวดจะมีสิทธิร่วมลงคะแนนให้กับภาพยนตร์เพื่อนำมาประมวลผลตัดสิน
สำหรับไฮไลต์หนังสายประกวดที่คอหนังไม่ควรพลาด แนะนำ 3 เรื่องจากสาขาภาพยนตร์นานาชาติ (International Competition) ดังนี้
• RENOIR – ผลงานการกำกับของผู้กำกับหญิง “ชิเอะ ฮายาคาวะ” (PLAN 75) ที่ได้เข้าประกวดชิงรางวัลปาล์มทองคำในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 78 หนังเรื่องนี้จะพาผู้ชมไปสัมผัสกับชีวิตของเด็กวัย 11 ปีในกรุงโตเกียวยุค 1980’s ที่ต้องเผชิญปัญหารุมเร้าในครอบครัว เมื่อพ่อป่วยหนักด้วยโรคมะเร็ง และแม่กำลังเครียดจากปัญหาในที่ทำงาน
• SOUND OF FALLING – ผลงานการกำกับของผู้กำกับภาพยนตร์หญิงชาวเยอรมัน “มาสช่า ชิลินสกี้” ที่คว้ารางวัล Jury Prize จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 78 และเป็นตัวแทนของเยอรมนีเพื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมประจำปีนี้ หนังเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวสี่คนจากสี่ยุคสมัย โดยชีวิตของแต่ละคนร้อยเรียงเชื่อมโยงกันผ่านฟาร์มแห่งหนึ่งที่พวกเธออาศัยอยู่
• THE CHRONOLOGY OF WATER – ผลงานการกำกับภาพยนตร์ชิ้นแรกของนางเอกดัง “คริสเตน สจ๊วต” ที่โชว์ฝีมือการกำกับจนได้รับเลือกให้เข้าฉายในสาย Un Certain Regard ของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 78 หนังเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดหนังสืออัตชีวประวัติของ ลิเดีย ยุคนาวิทช์ สู่จอหนัง โดยลิเดียต้องฝ่าฟันสิ่งเลวร้ายมาตลอดชีวิต ตั้งแต่พ่อที่กระทำทารุณกรรมเธอในวัยเด็ก ไปจนถึงชีวิตนักว่ายน้ำที่ถูกเหล้าและยาเสพติดทำลายจนก้าวไปไม่ถึงโอลิมปิก แต่ในที่สุด การเขียนหนังสือได้ฉุดชีวิตของเธอขึ้นมาจากก้นเหวได้สำเร็จ
คนวงการห้ามพลาด “ตลาดหนัง” ระดับสากล
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ BKKIFF 2025 ในระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2568 จะมีการจัด “ตลาดหนัง” ขึ้นเพื่อให้เป็นแหล่งรวมบุคลากรเบื้องหลังในวงการธุรกิจภาพยนตร์ เพื่อร่วมสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ ซื้อขายหนัง สร้างความร่วมมือใหม่ๆ และเผยแพร่ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ผ่านกิจกรรมตลาดหนัง ดังนี้
• Project Pitching พื้นที่นำเสนอโปรเจ็กต์หนังเพื่อคว้าเงินรางวัลทุนสร้างมูลค่ารวม 20,000 เหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น 2 สาย คือ “โปรเจ็กต์หนังไทย” (Thai Project Pitching) ที่จะตัดสินโดยคณะกรรมการ 3 ท่าน ได้แก่ อมราพร แผ่นดินทอง, เกรียงไกร วชิรธรรมพร และ ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ ขณะที่สาย “โปรเจ็กต์หนังเอเชียน” (Asian Project Pitching) มีคณะกรรมการตัดสิน 3 ท่าน ได้แก่ ยงยุทธ ทองกองทุน, จิน โอ๊ง และ คริส โอ๊ง
• Buyers Invitation เชิญผู้ซื้อและจัดจำหน่ายภาพยนตร์จากนานาชาติเข้าร่วมในเทศกาลฯ กว่า 50 บริษัท
• ออกบูธแนะนำบริษัท เชิญบริษัทในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์และซีรีส์ของไทย ร่วมออกบูธภายในตลาดหนังรวมกว่า 50 บูธ
• กิจกรรมสัมมนา เสวนาโต๊ะกลม เวิร์กช็อป และสร้างเครือข่าย ตลอดการจัดอีเวนต์ตลาดหนังที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและองค์ความรู้ให้กับคนในวงการ โดยมีหัวข้อการสัมมนาที่น่าสนใจ ได้แก่ Film x Economy ภาพยนตร์ไทยคือโอกาสทางเศรษฐกิจไทยที่ประเทศต้องจับตา, แบรนด์กับการลงทุนในคอนเทนต์ไทย เนื้อหาแบบไหนที่แบรนด์อยากลงทุน, Thailand as a Film Hub for International film Industry: ทำอย่างไรให้ไทยเป็นหมุดหมายของการผลิตภาพยนตร์ที่เติบโตยิ่งขึ้น
• Business Matching ผู้จัดจำหน่าย ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ โปรแกรมเมอร์เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ได้พบปะทางธุรกิจกับโปรเจ็กต์ภาพยนตร์จากเอเชียและไทย
ติดตามโปรแกรมฉายและความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ https://bkkiff.co หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook: https://www.facebook.com/bkkiffofficial, Instagram: https://www.instagram.com/bkkiffofficial และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพมหานคร ปี 2568” (BKKIFF 2025) เทศกาลหนังสุดยิ่งใหญ่ที่จะยกระดับกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางแห่งวงการภาพยนตร์และวัฒนธรรมสร้างสรรค์ร่วมสมัยแห่งภูมิภาค!