มูลนิธิเสริมกล้าได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 7 ทุน ให้แก่บุตรและญาติในครอบครัวของทหารผู้เสียสละจาก 6 ครอบครัว โดยเป็น "ทุนต่อเนื่อง" ที่จะดูแลค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาไปจนถึงระดับปริญญาตรี
ผู้แทนจากมูลนิธิเสริมกล้าก่อตั้งโดย คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรหลานของวีรบุรุษผู้กล้า ทหารผู้พลีชีพขณะปกป้องเกียรติภูมิและอธิปไตยของแผ่นดินไทยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
มูลนิธิเสริมกล้าได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 7 ทุน ให้แก่บุตรและญาติในครอบครัวของทหาร
ผู้เสียสละจาก 6 ครอบครัว ที่มาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี ยโสธร สิงห์บุรี มุกดาหาร และขอนแก่น โดยเป็น "ทุนต่อเนื่อง" ที่จะดูแลค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาไปจนถึงระดับปริญญาตรี มีเป้าหมายหลักคือแบ่งเบาภาระทางการเงิน ของครอบครัวที่สูญเสียหัวหน้าครอบครัว เปิดประตูโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ปลูกฝังให้เยาวชนเหล่านี้เติบโตเป็นบุคลากรคุณภาพของสังคม และพัฒนาศักยภาพ อย่างเต็มที่ตามความฝันและความสามารถ
การมอบทุนการศึกษาในวันนี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์อันแรงกล้าของมูลนิธิเสริมกล้าที่จะสานต่อการดูแลครอบครัวทหารผู้เสียสละอย่างต่อเนื่อง ที่ต้องการให้ทุกคนในสังคมตระหนักถึงคุณค่าอันสูงส่งของการเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง มูลนิธิเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การสนับสนุนด้านการศึกษาคือการสร้างโอกาสที่ยั่งยืน ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือครอบครัวในปัจจุบัน หากแต่เป็นการปูทางสู่อนาคตที่สดใสของเด็กและเยาวชน ให้พวกเขาสามารถก้าวเดินต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
การช่วยเหลือในครั้งนี้ ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคม ของ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเสริมกล้า ด้วยปณิธานที่ว่า “การช่วยเหลือใดๆ ก็ตามขอให้เริ่มต้นจากตัวเราเอง ทุกคนมีส่วนร่วมได้ไม่ว่ามากหรือน้อย ทำตามพลังและกำลังของเราด้วยใจจริง ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ อยากให้พวกเราทุกคนช่วยกัน ทุกการช่วยเหลือล้วนมีคุณค่า และเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมที่อบอุ่นและเข้มแข็ง”
จากภาพ: ที่กองบังคับการกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 อุดรธานี ตัวแทนมูลนิธิเสริมกล้าเดินทางมามอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรทั้ง 2 ของ จ.ส.อ. (พ) ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย หรือจ่าจุ้ย สังกัด ร.13 พัน 3 ค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ อ.เมือง
จ.อุดรธานี ซึ่งได้พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทย จากเหตุประทะที่บริเวณฐานปฏิบัติการช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ที่ โดยมีนางมยุริน สีจุ้ยจ้าย ด.ญ.จุฑามาศ สีจุ้ยจ้าย และ ด.ช.จิรภัทร สีจุ้ยจ้าย ภรรยาและลูก เดินทางมารับมอบด้วยตนเอง
นางมยุริน สีจุ้ยจ้าย ภรรยาจ่าจุ้ย เปิดเผยว่า หลังจากส่งสามีไปอยู่บนสวรรค์แล้ว มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือและให้กำลังใจครอบครัวเป็นจำนวนมาก ตนก็จะดูแลครอบครัวและลูกทั้งสองจนสุดความสามารถ ก็ตั้งใจไว้ว่าให้เขาเรียนจบสูงที่สุด แต่จะไม่บังคับเขา ให้เขาได้เรียนไปตามที่เขาต้องการ ลูกชายอยากเป็นทหารเหมือนพ่อ ส่วนลูกสาวก็อยากเป็นพยาบาลหรือบุคลากรทางการแพทย์ เพราะพ่อเขาเสียชีวิตที่สนามรบ ขอขอบพระคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวตน ในส่วนมูลนิธิเสริมกล้า ก็เข้ามาช่วยเรื่องทุนการศึกษาลูกทั้งสองคน ก็จะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้ลูกให้เรียนจนจบตามที่สามีให้ตั้งใจเอาไว้