ร่วมส่งกำลังใจและแสดงความยินดี ในโอกาสครบรอบ 26 ปี ปปง. 

ร่วมส่งกำลังใจและแสดงความยินดี ในโอกาสครบรอบ 26 ปี ปปง. 

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมไทยในการป้องกันและปราบปราม การก่ออาชญกรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่น่าสงสัยของกลุ่มอาชญกรที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในหลากหลายรูปแบบ เช่น แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ แก๊งค์ค้ายาเสพติด ขบวนการค้ามนุษย์ การฉ้อโกงประชาชน ธุรกิจการพนันทุกรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และอื่นๆ โดยมีอำนาจในการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับอาชาญกรรมทุกรูปแบบให้ตกเป็นของแผ่นดินและนำไปทำประโยชน์ให้กับประชาชน

ปปง.ภายใต้การบริหารงานนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คนปัจจุบันเป็นลูกหม้อของ ปปง. ร่วมงานกับ ปปง.ตั้งแต่ในยุคก่อตั้งสำนักงานและไต่เต้าขึ้นมาโดยลำดับ จนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของ ปปง.ในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา และกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ โดยยึดมั่นในการทำหน้าที่ตามกรอบของกฎหมายอย่างเคร่งครัดจนเป็นที่ประจักษ์ ไม่รับเคลียร์ทุกกรณีไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะจ้างวานหรือไหว้วานให้ผู้มีอำนาจมาข่มขู่อย่างไรก็ตาม

ในอดีตที่ผ่านมามีคดีใหญ่เกิดขึ้นมากมายที่เข้ามาอยู่ในอำนาจของ ปปง. และมีผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งผู้เสียหายหรือผู้ถูกกล่าวหาพร้อมจะเคลียร์แบบไม่มีเงื่อนไข แต่ในยุคของนายเทพสุ เลขาธิการ ปปง. หลายคดีมีความพยายามจากทุกทิศทางเข้ามากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับปฏิบัติขึ้นไปจนถึงเลขาธิการ ปปง. มีทั้งการข่มขู่ที่จะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือข่มขู่ว่าจะฟ้องกลับเพราะทำให้เสียหายทางธุรกิจ  แต่นายเทพสุไม่สนใจทุกกรณีโดยปฏิเสธไม่ให้ใครเข้าพบทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้นั้นจะมีอำนาจมากแค่ไหนก็ตาม เพราะถ้าใช้อำนาจตามที่กฎหมายกำหนดก็ไม่ต้องกลัวใคร และถ้าไม่รับเงินสินบนก็ไม่ต้องเกรงใจใคร และเมื่อหัวไม่กระดิกหางก็ไม่ส่าย ทำให้การทำงานของ ปปง.ในปัจจุบันไหลลื่นกว่าในอดีตที่ผ่านมา

ผลงานของ ปปง.ชุดนี้ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์คือ คดีหุ้น More ซึ่งเป็นคดีที่นายเทพสุ ตัดสินใจใช้อำนาจด้วยความเด็ดเดี่ยวและรวดเร็วในการสั่งอายัดบัญชีหลักทรัพย์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการปั่นหุ้นมูลค่ามากกว่า 4.5  พันล้านบาท จากกรณีที่นายอภิมุข บำรุงวงศ์ ตั้งคำสั่งซื้อหุ้น More และ More-R จำนวนมาก ในวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย.2565 ก่อนตลาดหลักทรัพย์เปิดและเมื่อตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ หุ้นเหล่านั้นก็ถูกจับแมทช์กับบัญชีของกลุ่มที่ร่วมมือกับนายอภิมุขที่ตั้งขายรอไว้ทันที ทำให้บริษัทหลักทรัพย์ 10 แห่งที่นายอภิมุขมีบัญชีอยู่ต้องชำระค่าขายหุ้นทั้งหมดให้กับพวกของนายอภิมุขภายในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.2565 

หลัง ปปง.ได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรายงานว่าพบพฤติการณ์แห่งการกระทผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระของนายอภิมุขกับพวกกรณีหุ้น More นายเทพสุ ในฐานะเลขาธิการ ปปง. ก็ได้ตัดสินใจสั่งทีมงานเร่งดำเนินการอายัดบัญชีทั้งหมดทันที ซึ่งตามระเบียบราชการไม่ใช่ว่าแค่เข้าไปกดปุ่มแล้วอายัดบัญชีทั้งหมดได้เลย แต่มีขั้นตอนทางเอกสารจำนวนมากที่จะต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานอย่างรอบคอบไม่ให้มีช่องโหว่ก่อนออกคำสั่งอายัด โดยจะต้องทำงานแข่งกันเวลาเพื่อให้มีผลก่อนเช้าวันจันทร์ที่ 14 

ซึ่งตลอด 2 วันที่ทีมงาน ปปง.เร่งดำเนินการ มีแรงกดดันเข้ามาทุกรูปแบบเพื่อขัดขวางการอายัดบัญชีทั้งหมดมูลค่า 4.5 พันล้านบาทจากผู้ไม่หวังดี โดยมีทั้งคำขอร้องและคำข่มขู่ที่จะดำเนินการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ทุกนาย จนทีมงานต้องหอบแฟ้มไปรายงานเลขา ปปง.ทราบ ซึ่งนายเทพสุ สั่งทีมงานว่าให้เดินหน้าเต็มตัว "มีอะไรผมรับผิดชอบเอง" ทำให้ทีมงานเดินหน้าลุยต่อและมีคำสั่งอายัดออกมาได้ยังทันการณ์ในวันเสาร์ที่ 12 พ.ย. ก่อนถึงกำหนดเดทไลน์ที่บริษัทหลักทรัพย์จะต้องจ่ายเงิน 4.5 พันล้านบาทให้กับพวกของนายอภิมุขรวม 42 ราย มิเช่นนั้นความเสียหายทั้งหมกก็จะตกอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 10 แห่ง ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ ของประเทศโดยรวม

นอกจากคดีหุ้น More แล้ว ปปง.ก็ยังมีผลงานปราบปรามอาชญกรรมทางเศรษฐกิจอีกมากมายที่ช่วยบรรเทาหรือป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน เช่น การปราบปรามบัญชีม้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เครือข่ายเว็ปพนันออนไลน์ ขบวนการค้ายาเสพติด และอาชญกรรมทางเศรษฐกิจอีกหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งการป้องกัน ป้องปรามและปราบปราม โดย ปปง.มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ธนาคาร
แห่งประเทศไทยกำหนดมาตรการในการดำเนินการกับบัญชีม้าให้ธนาคารพาณิชย์ในไปปฏิบัติ

ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 26 ปี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 19 สิงหาคม 2568 นี้ จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมแสดงความยินดีผ่านระบบออนไลน์ของเว็ปไซต์สำนักงาน ปปง. และร่วมบริจาคเงินสมทบทุน "กองทุนสวัสดิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน" โดยบริจาคผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาปทุมวัน เลขที่บัญชี 008-1-62930-3  ผู้บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สายด่วน ปปง.1710
 

TAGS: #ปปง #สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน