“สอน.” จับมือ “ไทยคม” เปิดตัว แพลตฟอร์มติดตามร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศ (Space Tech) และ AI หวังลดมลภาวะทางอากาศ
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายในงานปิดตัว แพลตฟอร์มติดตามร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI (Artificial Intelligence) ว่า ที่ผ่านมา สอน. ได้มุ่งดำเนินการตามนโยบาย Mind ใช้หัว และ ใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ของนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมอ้อยน้ำตาลทราย เติบโตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยปีการผลิต 2567/2568 มีชาวไร่อ้อยขึ้นทะเบียน 430,357 ราย พื้นที่ปลูกอ้อย 11.13 ล้านไร่ ปริมาณอ้อยเข้าหีบ 92.04 ล้านตัน เฉลี่ยผลิตน้ำตาลได้ต่อตาลอ้อย 109.19 กิโลกรัม/ตัน ทั้งนี้ในปี 2567 อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมากกว่า 184,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 ณ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพียงครึ่งปี สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศไปแล้วมากกว่า 92,500 ล้านบาท
นายใบน้อย กล่าวต่อไปถึงสถานการณ์การค้าน้ำตาลโลกว่า จากข้อมูลองค์การน้ำตาลระหว่างประเทศ International Sugar Organization หรือ ISO ประเทศไทยเรามีสัดส่วนการผลิตน้ำตาลโลก อยู่ที่ 5% ถือเป็นผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 5 รองจากบราซิล อินเดีย สหภาพยุโรป และจีน โดยมีสัดส่วนในการส่งออกน้ำตาลโลกอยู่ที่ 9% เป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล สูงกว่าอินเดียในปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำตาลที่แข็งแรงของไทย จนมีบทบาทที่สำคัญต่อตลาดน้ำตาลของโลก
สำหรับผลการดำเนินงานที่สำคัญประจำปี 2568 ด้วยว่า สำนักงานฯ มุ่งเน้นในการปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ทันสมัยสะอาด สะดวกโปร่งใส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการเผาอ้อยในฤดูการผลิตปี 2567/2568 สอน. ได้ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาการเผาอ้อย เพื่อลดปัญหาฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ใน 6 มาตรการ ซึ่ง 1 ใน 6 มาตรการนั้น คือ การส่งเสริมเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลสนับสนุนเครื่องจักรกลทางการเกษตรส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาใช้เทคโนโลยีติดตามการเผาและร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อยด้วยดาวเทียม ที่เราได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Burn Tracking ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญร่วมกับ บริษัท ไทยคม จำกัด ( มหาชน )
ส่วนแผนการดำเนินงานปีงบประมาณ 2569 นั้น สอน.มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกพันธกิจด้วยการ ‘ใช้หัว’ และ ‘ใจ’ ปั้นอุตสาหกรรมไทยสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกรชาวไร่อ้อยน้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชีวภาพ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นไบโอฮับ ออฟอาเซียน ภายในปี 2570 พัฒนาพลาสติกชีวภาพ เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดการเผาอ้อย การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฝุ่น PM 2.5 สร้างเครือข่าย Center of BioExcellent รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มผลิตผลอ้อยประสิทธิภาพน้ำตาลทราย สร้างนวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ไทยคม ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง ในการนำเทคโนโลยีอวกาศ หรือ Space Tech มาคิดค้นนวัตกรรมและบริการเพื่อพัฒนาการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจ ที่เราได้จับมือกับ สํานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มติดตามร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศจากระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI เพื่อการส่งเสริมสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดฝุ่น PM 2.5
นายปฐมภพ กล่าวว่า แพลตฟอร์มนี้เรียกอีกอย่างว่า Burn Tracking เป็นระบบวิเคราะห์เพื่อติดตามการเผาและร่องรอยการเผาไหม้ในไร่อ้อย ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศระบบดาวเทียม โดยจะแสดงผลการวิเคราะห์ภาพรวมของการเผาไหม้ในพื้นที่ปลูกอ้อยในรูปแบบ Dashboard เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์ได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่ปลูกอ้อย ผลผลิตอ้อย การคาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าโรงงาน รวมถึงจุดความร้อนและพื้นที่ที่มีร่องรอยการเผาไหม้
โดยนำเสนอในรูปแบบแผนที่เชิงพื้นที่ อำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการนำข้อมูลผลการวิเคราะห์ไปใช้งาน โดยสามารถส่งออกข้อมูลได้ทั้งในรูปแบบไฟล์ PDF และ CSV สามารถรับข้อมูลข่าวสาร พูดคุยสอบถามกับเจ้าหน้าที่ และรับการแจ้งเตือนจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกอ้อยได้อย่างสะดวก ผ่าน Line Official Account
“ไทยคม ขอขอบคุณ และยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะนี้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยเทคโนโลยี Space Tech และข้อมูลภูมิสารสนเทศจากระบบดาวเทียมผสานกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI อันจะบรรลุผลสำคัญในการส่งเสริมสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดฝุ่น PM 2.5 อันเกิดจากการเผาไหม้ในภาคอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งไม่ได้จำกัดแต่เพียงอุตสาหกรรมอ้อยเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมการเกษตรอื่นๆ อีกด้วย”
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้จะสามารถผลักดัน สร้างความตระหนักรู้ และส่งเสริมสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดฝุ่น PM 2.5 ให้บรรลุผล อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และส่งเสริมอุตสาหกรรมการเกษตรโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เติบโต หนุนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และยั่งยืนต่อไป