"บิ๊กทิน" เข้ากราบ "บิ๊กจิ๋ว" เชิญนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีให้เป็นสิริมงคล แต่เจ้าตัวปฏิเสธติดปัญหาด้านสุขภาพ เล็งเชิญนายทหารระดับพล.อ.ร่วมงานขับเคลื่อนกองทัพ ลั่นพร้อมปรับท่าที ไม่พูดเยอะตามสไตล์ทหาร
นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาเชิญ พล.อ.ชวลิต นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่กระทรวงกลาโหมในวันทำงานวันแรก เพื่อความเป็นสิริมงคล และตนเองระลึกถึงคุณงามความดีที่ท่านได้เคยทำให้กับประเทศ จึงมาขอคำแนะนำ แต่พล.อ.ชวลิตได้ปฏิเสธ โดยท่านไม่สะดวกเพราะติดปัญหาทางด้านสุขภาพ ขณะดียวกัน พล.อ.ชวลิต ได้อวยพรให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย งานทุกอย่างราบรื่น โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น นายสุทิน กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตนเองได้เดินสายขอคำแนะนำกับบุคคลสำคัญของกองทัพหลายคน เช่น พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นต้น ส่วนวันนี้มาพบ พล.อ.ชวลิต ยังเห็นว่าสุขภาพแข็งแรง ส่วนตัวรู้สึกดีใจเพราะมีคนดูแลดี
หลังใช้เวลาพูดคุยหารือ 15 นาที นายสุทิน เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะพูดให้น้อยลง เพราะภาพลักษณ์ทหารพูดให้น้อย ทำงานให้มาก ต่อไปรัฐมนตรีจะต้องพูดให้น้อย วันนี้มาขอพรและมาเยี่ยม ซึ่งตั้งใจจะมาเยี่ยมนานแล้ว นับเป็นโอกาสดี พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า มั่นใจว่าจะทำงานได้ และยังให้พรที่สำคัญคือ ให้เชื่อมั่นว่าจะทำได้ และไม่หนักใจที่จะมาทำหน้าที่ ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำงานในกระทรวงกลาโหม อยากให้ พล.อ.ชวลิต เข้าไปนั่งในกระทรวงหรือไม่ นายสุทิน ยอมรับอยากให้ท่านเข้าไปนั่งที่กระทรวงกลาโหมในวันแรกที่ตนเข้าทำงานเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมองว่าท่านเป็นทหารอาชีพที่มาเล่นการเมือง ถือว่าเป็นคนเก่ง จึงยกย่องท่านว่าเป็นปูชนียบุคคล แต่ท่านตอบว่า ไม่ได้เพราะสุขภาพไม่แข็งแรง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยรู้จัก พล.อ.ชวลิต มาก่อนหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า ตอนที่ตนเองอยู่ในรัฐบาลความหวังใหม่ ไม่เคยรู้จัก มารู้จักกันในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย โดยมีโอกาสได้พูดคุยกับท่าน ท่านก็เชิญไปตีกอล์ฟในสมัยหนุ่มๆ ซึ่งท่านยังจำเหตุการณ์ในสมัยนั้นได้ดี ความจำท่านดีมาก
ส่วนเรื่องการนับเวลาถอยหลังที่จะต้องเข้ากระทรวงอย่างเป็นทางการ และได้เดินสายเข้าพบผู้ใหญ่หลายท่านมาแล้ว งานใหญ่ที่จะต้องทำในวันแรกคือเรื่องอะไร นานสุทิน กล่าวว่า นโยบายทุกนโยบายจะต้องถูกหยิบขึ้นมา แต่เรื่องที่ตนสนใจมากที่สุดคือเรื่อง การพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ซึ่งเรามีสถาบันป้องกันประเทศ โดยสนใจว่าอยากจะเชิญทหารเก่งๆ ในสมัยใหม่มาเชื่อมโยงนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีทั้งหลาย และจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อทำการพัฒนาให้เป็นกองทัพที่สมัยใหม่จริงๆ พร้อมย้ำว่าหากมีรัฐมนตรีช่วยที่มาจากพรรคอื่น ก็ไม่มีปัญหา เพราะเราทำงานภายใต้การบริหารนายกฯ คนเดียวกัน
ขณะเดียวกันในทีมก็จะเตรียมเชิญพล.อ.ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมทำงานขับเคลื่อนงานของกองทัพ ซึ่งตอนนี้มีนายพลเยอะเป็นร้อยคน โดยคณะของตนเป็นคณะที่ทำตามนโยบาย ไม่ว่าจะเรื่องทหารเกณฑ์ ชุดปรับกำลังพล คณะชุดปราบยาเสพติด “มีนายพลเยอะเกือบร้อยคน”
เมื่อถามว่านโยบายยกเลิกทหารเกณฑ์มีคนสนใจมากในขณะนี้ จะมอบหมายให้ใครมาดูแล จะเปิดเผยได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า กำลังจัดชุดกันอยู่ ซึ่งมีทหารที่เสนอตัวเข้ามาทำงานร่วมด้วย แต่ไม่หนักใจ เพราะมีการแบ่งกลุ่มที่ทำงานในระบบที่รับราชการอยู่ และนอกระบบ ซึ่งตนสามารถจะตั้งได้อยู่แล้ว
สำหรับการปรับตัวในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม นายสุทิน กล่าวว่า เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น แต่คงต้องใช้เวลา ส่วนเรื่องคนติดตามที่ถูกนำเสนอข่าวไว้ว่ามีถึง 40 คนนั้น นายสุทิน ระบุว่า ถ้าเป็นภาพข่าวในตอนแรกที่มีชุดรักษาความปลอดภัยไปรอหน้าบ้านเพื่อไปรายงานตัว เป็นแค่ไปรายงานตัวเท่านั้น และช่วงนี้เป็นช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ หลายอย่างยังไม่ลงตัว แต่สัปดาห์หน้าก็ทุกอย่างจะลงตัว และการทำหน้าที่ก็จะใช้คนเท่าที่จำเป็น