"เศรษฐา" เชื่อ "ภูมิธรรม" เข้าใจ ไม่ได้นั่ง มหาดไทย ต้องยกให้ "ภูมิใจไทย" แทน ชี้จัดโผตามความเจริญบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่แบ่งอย่างเดียว พร้อมขอให้ดูผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงโผ ครม.ว่า รายชื่อที่สื่อนำเสนอมา ใกล้เคียงแล้ว    แต่ไม่อยากไปก้าวล่วงเพราะมีคณะเจรจา ความคืบหน้าในการเจรจาไปในทิศทางที่ดี ซึ่งต้องมีการลงรายละเอียด รัฐมนตรีช่วยฯ จะควบคุมกรมอะไร ซึ่งอยู่ในระหว่างการต่อรอง และการพูดคุยกัน สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความถนัดของบุคคลที่จะมาดูแล  เพราะเราคำนึงถึงความเจริญของบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องการแบ่งอย่างเดียว พร้อมยืนยันว่าในขณะนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีความลงตัว และใกล้เคียงแล้ว 
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทย ได้กระทรวงมหาดไทย ถือว่าเป็นการเสียการปกครองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูไปก่อน และขอดูว่าการแบ่งกันอย่างไร เนื่องจากมีในส่วนของรัฐมนตรีช่วยฯ ขอให้ใจเย็นๆ

ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยเดิม ทีมีชื่อภูมิธรรม ที่เป็นผู้ใหญ่ในพรรค แต่ต้องปล่อยให้อนุทินไป เจ้าตัวจะเสียใจหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า “นิดนึงนะ ขอใจเย็น ผมว่าทุกคนเข้าใจหมด ตำแหน่งกระทรวงใหญ่ ซึ่งเข้าใจว่า ได้พูดคุยกันแล้ว และคิดกันดีแล้ว หลายท่านที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยเอง ก็ไม่ได้มีความชำนาญแค่กระทรวงเดียว หลายคนก็ผ่านการดูแลงานมาเยอะ เชื่อว่าการจัดสรรทุกอย่างเหมาะสม”

ส่วนตำแหน่งผู้แทนการค้าในสมัยทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ใช้งานนั้นเห็นว่า ปัจจุบันการค้าโลก การเปิดตลาดเสรีใหม่ รวมถึงเรื่องต่างประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งตามความเข้าใจของตนเอง ผู้แทนการค้า 5 คน และสามารถตั้งประธานได้อีก 1 คน เมื่อตัวเองเป็นหัวหอกขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ ก็จะฟื้น ส่วนคณะทำงานจะเป็นของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ต้องให้เกียรติพรรคร่วมและดูความเหมาะสม รวมถึงความสามารถของบุคลากร จะไปบอกว่า เป็นของใครเลยก็ไม่ได้ ขอเอาประเทศชาติเป็นที่ตั้งก่อน

เมื่อถามย้ำว่า รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ต้องรู้มือ รู้ใจกัน ใช่หรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า เป็นธรรมดาที่ต้องทำงานร่วมกันได้ เชื่อว่าถ้าเอาปัญหา และโจทย์ความลำบากของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนหรือเป็นใคร จะทำงานด้วยกันได้ ไม่อยากไปตั้งแง่ว่ามาจากพรรคไหน เป็นใคร ทั้ง 11 พรรค ที่อยู่ด้วยกันวันนี้ เชื่อว่าทุกคนเข้าใจถึงความต้องการของประชาชนและปัญหา ที่ต้องเดินไปข้างหน้า ก้าวข้ามความขัดแย้ง

นายเศรษฐา กล่าวถึงผลสำรวจความนิยมของศรีปทุม ที่มีความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลงกว่า 60% ว่า ต้องเอาผลงานอย่างเดียวเป็นเครื่องพิสูจน์ วันนี้ก็ทำงานอย่างเดียวเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า ไม่เหน็ดเหนื่อย ส่วนเรื่องความคาดหวังและความศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อพรรคเพื่อไทย เราควบคุมไม่ได้ แต่ยืนยันว่าคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย ถ้าได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนจะเต็มที่ เพราะเข้าใจถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจและสังคม และเข้าใจที่จะต้องเดินไปข้างหน้า