"ชัยธวัช" นำทีมแถลงหลังรัฐสภาโหวต "เศรษฐา" นั่งนายกฯ ยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ ชี้สิ่งที่ล้มรัฐบาลชุดนี้ได้คือศรัทธาประชาชน

 ที่รัฐสภา พรรคก้าวไกล นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังมติที่ประชุมรัฐสภาเสียงข้างมาก มีมติเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ คนที่ 30 ว่า วันนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้และการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากวันนี้ มิได้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ มิใช่การสลายขั้วความขัดแย้ง โดยเอาวาระของประชาชน และวาระของประเทศเป็นตัวตั้ง แต่นี่เป็นการสยบยอม และต่อลมหายใจให้ระบบการเมืองของคณะรัฐประหารปี 2557 พยายามสถาปนาขึ้น ทำลายความหวัง ความศรัทธา อำนาจของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย

“แน่นอน ต่อจากนี้ไปพรรคก้าวไกล จะทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยเราจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ทุกเสียงของพี่น้องประชาชนที่มอบให้พรรคก้าวไกลต้องมีความหมาย ผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลทุกคน จะทำงานอย่างสุดความสามารถ ทั้งด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ทั้งในด้านการผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า ทั้งในด้านการผลักดันวาระของประชาชนผ่านกลไกต่าง ๆ ของสภาฯ รวมทั้งการทำงานกับประชาชนนอกสภาฯ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมร่วมกันอย่างไม่ท้อถอย” นายชัยธวัช กล่าว 

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า แม้ในวันนี้ ผู้มีอำนาจจะพยายามทำให้อำนาจของประชาชนไม่มีความหมาย แต่พรรคก้าวไกล ยังยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างมั่นคง ด้วยความเชื่อมั่นว่า พลังของพี่น้องประชาชนจะสามารถสร้างอนาคตแบบใหม่ ให้แก่สังคมไทยได้ในที่สุด

“สักวันหนึ่ง เราจะมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง สักวันหนึ่ง เราจะมีระบบเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า เท่าทันโลก และเป็นธรรม สักวันหนึ่ง เราจะมีสังคมที่เคารพความแตกต่างหลากหลาย เคารพสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ยึดถือความมั่นคงของประชาชนเป็นความมั่นคงของชาติ ด้วยความเคารพในประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ จากพรรคก้าวไกล” นายชัยธวัช กล่าว

ภายหลังแถลงข่าวจบ สื่อมวลชนสอบถามถึงบทบาทการตรวจสอบรัฐบาลในฐานะฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า   การทำงานในฐานะฝ่ายค้าน ทำแบบสร้างสรรค์ ยึดหลักการและเหตุผลเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่คัดค้านหรือไม่เห็นด้วย หรือจ้องล้มรัฐบาลทุกวัน รัฐบาลชุดนี้สิ่งที่จะล้มได้คือศรัทธาของประชาชน แม้เราจะเป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล จะเดินหน้าทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมบริหารประเทศให้ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า นี่คือเป้าหมายของเรา"