"สุเทพ" พร้อมทนาย ฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์คดีโรงพักทดแแทน ทนายมั่นใจ ชี้ ผ่านกระบวนการมาหมดแล้ว ด้าน "สุเทพ" บอก "ทักษิณ"คิดถูกแล้ว กลับบ้าน
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ วิศณุ วิเศษสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการในการจัดจ้างโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หรือ "โรงพักทดเเทน" และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก หรือแฟลตตำรวจ จำนวน 396 แห่ง ซึ่งสังคมรู้จักกันในชื่อ “คดีฮั้วประมูลก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง” มูลค่าความเสียหาย 5,848 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาเเล้วเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิด ชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 6 คน แต่ต่อมา ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ นำไปสู่การนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้
โดยในวันนี้ นายสุเทพ พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เผยก่อนฟังคำพิพากษา ว่า ชั้นอุทธรณ์ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นชั้นสุดท้ายแล้ว ส่วนความมั่นใจนั้นทั้งทีมทนายและนายสุเทพ ก็มั่นใจ ไม่มีความกังวล ไม่มีความตื่นตระหนก เพราะกระบวนการต่างๆ ได้ผ่านมาหมดแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ได้นำเสนอต่อศาลชั้นต้นไปหมดแล้วและได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ หลังจากเรารอคอย ป.ป.ช.สอบสวนมานานกว่า 10 ปี วันนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการ และในชั้นนี้ไม่มีการยื่นพยานเพิ่มเติมใดๆ เรายังคงเชื่อมั่นในความยุติธรรมตามที่ได้ต่อสู้มาตั้งแต่แรก
ขณะที่ นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีนายทักษิณกลับบ้านนั้น คิดถูกแล้วที่กลับมา ตนเองไม่มีปัญหา ส่วนถ้าระบอบทักษิณฟื้นชีพขึ้นมาอีก ก็คงต้องมีคนไทยจะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างที่ตนเองออกมาต่อสู้ ซึ่งนับจากนี้ถ้าเกิดอะไรก็เป็นหน้าที่คนไทยต้องแก้กันไป