ภูมิธรรม เผย พร้อมคุยทุกพรรค ขอเสียงโหวตนายกฯ แก้ปัญหาให้ประเทศ สร้างมิติใหม่ทางการเมือง ชี้ กำลังนัด "ก้าวไกล"เจรจา ขอเสียงโหวตนายก พร้อมขอโทษ ขอขมา วอน ประชาชนเข้าใจต้องตั้งรัฐบาลสลายขั้ว

นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผยถึงกระแสข่าว พรรคเพื่อไทยนัดหมายพรรคก้าวไกล หารือเรื่องการโหวตนายกฯ ว่า ได้หารือทุกฝ่าย เกี่ยวกับปัญหาประเทศ 3 เรื่อง คือรัฐธรรมนูญ ปากท้อง และการแบ่งแยก ต้องใช้เวลานี้คลี่คลายวิกฤตประเทศให้ได้ จึงเสนอให้จัดตั้งรัฐบาลพิเศษแก้ปัญหาให้ประเทศ ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว แต่เป็นการสลายขั้วทั้งหมด อยากให้ทุกคนร่วมกันหาทางออก เป็นโอกาสแก้ไขปัญหา 26 ปี เพื่อไทยได้โอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เราหวังจะเป็นแกนกลางลดความขัดแย้งลง

“เราต้องการทุกพรรคทุกฝ่ายร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีเสียงถึง เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประเทศในเรื่องที่สำคัญที่สุด คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ”

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ขอสร้างมิติทางการเมืองใหม่ ไม่จำเป็นที่ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลต้องแย้งกันตลอดไป อะไรที่เราทำแล้วไม่ดีก็สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้ จากจุเยืนแบบนี้เราจึงพูดคุยกันกับทุกฝ่าย โดยในวันนี้จะมีการแถลงข่าว 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีพรรคชาติพัฒนากล้ามาเพิ่ม

สำหรับการติดต่อพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ได้ติดต่อไปเพื่อ อธิบายถึงวาระสำคัญของประเทศ ถ้าจะทำให้ความต้องการของประชาชนบรรลุความสำเร็จได้ เราอยากให้เขาร่วมในการโหวตสนับสนุนครั้งนี้ด้วย 

“ไม่ว่าอะไรที่เคยเกิด หรือเป็นปัญหา อาจมีส่วนกับพรรคเพื่อไทยหรือกับผม เรายินดีขอโทษ จึงเป็นเวลากับทางพรรคก้าวไกลเพื่อแสดงจุดยืนได้เห็นว่าต้องคิดเรื่องใหญ่ของประเทศ ไม่ได้คิดเรื่องเล็กน้อย หรือเรื่องของตัวบุคคล ถ้าจะทำงานใหญ่ ต้องคิดใหญ่ด้วย มองข้ามความขัดแย้งเดิมๆ” 

ส่วนพรรคก้าวไกล เราได้ติดต่อประสานงานไป และอยากใช้เวทีนี้ในการพูดคุยกันว่าสถานการณ์ประเทศเป็นแบบนี้จะทำให้ความต้องการณ์ของประชาชนบรรลุความสำเร็จได้ 

“อยากให้ก้าวไกลร่วมแสดงเจตจำนงค์ในการโหวตครั้งนี้ด้วย อะไรที่เคยเป็นปัญหา ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้น หากมาจากพรรคเพื่อไทยหรือมาจากตน เรายินดีไป ขอโทษ ขอขมา แสดงความต้องการและความคิดเห็นถึงวิกฤตประเทศ จะให้เราไปถึงพรรคก้าวไกลเราก็ยืนดี ซึ่งขณะนี้กำลังรอวันและเวลา ถือ เป็นเวทีหนึ่งที่เราจะไปแสดงเจตจำนงค์  วันนี้เราคิดเรื่องใหญ่ของประเทศเป็นหลัก ถ้าอยากจะทำงานใหญ่ต้องคิดให้ใหญ่ มองข้ามความขัดแย้งเดิมๆ ทั้งเรื่องไล่หนู ตีงูเห่า หรือความจัดแย้งหลายๆ อย่าง ถ้าแห้ปัญหาตรงนี้ได้ประเทศก็จะเดินหน้าได้ “

นายภูมิธรรม ยังระบุว่า วันนี้เราติดต่อไปทุกพรรค และค่อนข้างได้รับการตอยรับที่ดีในจุดเริ่มต้น แต่ก็มีรายละเอียดอื่นๆ ที่ต้องพูดคุยกัน รวมถึงความมั่นใจที่เพื่อไทยจะต้องแสดงให้เห็นว่ามีความจริงใจ ซึ่งเพื่อไทยยินดีที่จะยืนยันตามเจตจำนง ตัวเลขทางคณิตศาสตร์แสดงให้เห็นชัดเจน ถ้าวันนี้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เรามีทางเลือกไม่กี่ทาง จึงจำเป็นต้องไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมีต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนอาจจะมีความไม่สบายใจ วันนี้พรรคเพื่อไทยยอมทุกอย่าง ถ้าให้โอกาสเรา เราจะพิสูจน์ด้วยการทำงาน ทั้งนายกรัฐมนตรีของเราประสบการณ์การทำงานของพรรค และประสบการณ์พรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤตทุกอย่างไปได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยินดีร่วมกับทุกพรรคการเมืองในการขับเคลื่อนนโยบาย ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล มีเพียงเรื่องม.112 และเรื่องสถาบันที่เราจะไม่แตะต้อง 

นายภูมิธรรม ย้ำด้วยว่า พูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีการแบ่งขั้ว ทางที่ดีที่สุดคือทำให้สามารถตัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นวันนี้ยังไม่มีพรรคใดบอกว่าไม่ร่วมทุกพรรคอยากฟังรายละเอียด ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ทุกคนจะต้องเข้าใจ ว่าทุกอย่างพอจารณาอย่างรอบครอบเเล้ว ว่าจะไปต่อได้ถ้าเอาประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าทุกพรรคจะยอมรับได้ ซึ่งตนเรียกร้องทุกฝ่าย รวมไปถึงส.ว.ด้วย ทั้งรายบุคคล กลุ่มการเมือง อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง วันนี้พรรคเพื่อไทยอาสา และมีต้นทุนที่ประชาชนต้องตรวจสอบ หากทำไม่ได้ ในอนาคตประชาชนจะเป็นผู้ตรวจสอบและตัดสินพรรคเพื่อไทย 

ส่วนจะได้รับคำตอบจากพรรคก้าวไกลเมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้ได้คำตอบจากพรรคการเมืองอื่นมาเรื่อยๆ และสามารถจะแถลงความชัดเจนได้เป็นระยะ จนกว่าจะถึงวันที่พรรคเพื่อไทยไปต่อไม่ได้ วันนั้นจะได้แถลงให้ ประชาชนรับทราบ

นายภูมิธรรม ยังระบุ ด้วยว่าเท่าที่พูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ ไม่มีการเรียกร้องเก้าอี้รัฐมนตรี ในฐานะพรรคแกนนำพูดชัดเจนไม่มีการคุยเรื่องกระทรวง เมื่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่พูดคุยเรื่องนี้ปัญหาเรื่องการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีจึงยังไม่เกิดขึ้น วันนี้ต้องฝ่าวิกฤตกับรัฐธรรมนูญที่ผิดปกติไป เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี จึงจะมาคุยในเรื่องอื่นๆ พรรคที่มีนโยบายตอบสนองกับประชาชนได้ก็จะมาร่วมพูดคุยกัน วันนี้ไม่ใช่เพียงการตั้งรัฐบาลอย่างเดียว ต้องมีการทำงานที่สอดประสานกัน และทำงานได้อย่างเต็มที่เท่าที่ต้องการ ฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบได้อย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ถือเป็นแนวทางในการติดต่อ วันนี้ทุกท่านต้องถามตัวเอง ว่าพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการคลี่คลายสังคมให้หลุดจากความขัดแย้ง และวิกฤติเศรษฐกิจที่อยู่มา 8-9 ปี หรือไม่  ส่วนที่ยังมีอารมณ์หรือใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา ตนคิดว่าเราอดทนทะนุถนอมกัน ชี้แจงกัน โดนหนักนิดเบาหน่อยเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่คือประเทศชาติบอบช้ำมากพอแล้ว

ส่วนจะมีโอกาสร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ ถามตนไม่ได้ ต้องถามว่าสิ่งที่ตนพูดมาจะเกิดขึ้นได้อย่างไรแล้วค่อยตัดสินใจร่วมกัน