“เสี่ยหนู” ไม่ติดใจในตัว “เศรษฐา” เชื่อแจงปมมาตรา 112 ได้ เผยยังไร้สัญญาณทาบทามร่วมรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค. ว่า ต้องดูการนำเสนอ ว่าเป็นอย่างไร พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกรณีที่สว.ตั้งข้อสังเกตกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เคยพูดถึงการแก้ ม. 112 นั้น นายอนุทิน ระบุว่า นายเศรษฐาพร้อมชี้แจง เพื่อความชัดเจนให้กับประชาชนได้ เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ติดใจกับนายเศรษฐา ต้องรอดูในวันโหวตนายกรัฐมนตรี จะมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างไร ขณะนี้ พรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นพรรคอันดับ 3 อยู่ ขอให้เป็นไปตามมารยาททางการเมือง เพราะขณะนี้พรรคอันดับ 2 กำลังจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอให้จัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อน
เมื่อถามว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้นายอนุทินเป็นคนเสนอชื่อนายเศรษฐา เพื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ยืนยันยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้และวันนี้ในที่ประชุมพรรคเป็นการประชุมตามปกติ ก่อนการประชุมสภา 1 วัน และต้องรอดูว่าพรรคเพื่อไทยได้มีการเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง แต่จนถึงขนาดนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณใดมายังพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย ได้เจอกันเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และได้แจ้งข้อจำกัดพรรค ที่แสดงความชัดเจนไม่แก้ไข หรือปรับปรุงม.112 ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่ขอร่วมงานกับพรรครัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลร่วมด้วย
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลจะยอมโหวตให้นายกรัฐมนตรี และไปเป็นฝ่ายค้านนั้น นายอนุทิน ทำท่าตกใจ พร้อมระบุว่า สมาชิกพรรคก้าวไกลบอกว่าไม่มี เพราะถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ต้องเป็นฝ่ายค้านตลอด และก็ต้องตรวจสอบกัน ยกเว้นว่าทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์ ประเทศชาติได้ประโยชน์ ฝ่ายค้านมาสนับสนุนรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่น่าชมเชย
เมื่อถามว่าสว.มีข้อเป็นห่วงว่า ถ้าได้นายกรัฐมนตรีแล้ว จะเอาพรรคก้าวไกลกลับมาร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น พรรคที่ไปร่วมรัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจนเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ใช่โหวตไปก่อน เป็นไปไม่ได้ ต้องมีความชัดเจน ประชาชนต้องรับรู้ รับทราบ ลักไก่ตีกินไม่มี เพราะเป็นเรื่องบริหารราชการแผ่นดินทุกอย่างต้องมีความชัดเจน เพราะเป็นสิ่งจำเป็น ใครเป็นรัฐบาลหรือใครฝ่ายค้าน เมื่อร่วมรัฐบาลแล้วมีนโยบายอะไรบ้าง ตัวเองได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคหลายพรรคซึ่งก็ยืนยันในหลักการนี้ ทุกอย่างต้องชัดเจน ฮึมครึมแบบนี้ไม่ได้ ประชาชนคงไม่ต้องกังวล ซึ่งพรรคร่วมต้องมีการแถลงไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถโหวตได้