เปิดนโยบายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ว่าที่รัฐบาลใหม่ ขึ้นค่าแรง 600 บาท ภายใน 4 ปี และเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ทุกคน
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะมีการโหวตนายกฯ ในรัฐสภาวันที่ 27 ก.ค. นี้ โดยคาดว่านายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกฯ จะได้รับการเสนอชื่อในการโหวตรอบนี้
การที่เพื่อไทย ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ทำให้นโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย กลับมาถูกจัยตามองอีกครั้งว่าจะได้มากน้อยขนาดไหน เพราะหลายนโยบายที่ว่าโดนใจทั้งผู้ที่เลือกและไม่เลือกพรรคเพื่อไทย
นโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยที่ร้อนแรงมากๆ เป็นอันดับต้นๆ คือ การค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570
รองลงมาหนีไม่พ้น เติมเงินให้ทุกคนระบบ ใช้จ่ายใกล้บ้านผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ทุกคน ใช้จ่ายใกล้บ้าน 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ฮือหาในแวดวงเศรษฐกิจ เพราะต้องใช้จำนวนเงิินหลายแสนล้่านบาทเพื่อดำเนินการนโยบายนี้
ขณะที่นโนบาย ปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซ ทันที เพื่อลดภาระในการเข้าถึงแหล่งพลังงานในชีวิตประจำวันให้ประชาชน ก็เป็นที่ทุกคนเฝ้ารอ
ส่วนนโยบายเศรษฐกิจอื่นๆ ก็ยังมีเด่นไม่แพ้กัน “ค่าโดยสารรถไฟฟ้า กทม.” 20 บาทตลอดสาย การยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค การทำให้ทุกครอบครัว มีรายได้ ไม่น้อยกว่า 20,000 บาท/เดือน การเพิ่มรายได้ของเกษตกรจะเพิ่มเป็น “3 เท่าภายในปี 2570” จากรายได้เฉลี่ย 10,000 บาท/ไร่/ปี เพิ่มเป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี การพักหนี้เกษตรกร 3 ปีทั้งต้น ทั้งดอกทันที นโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์พาวเวอร์ จะยกระดับทักษะคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน สร้างรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง
ทั้งหมดเป็นแต่นโยบายเศรษฐกิจเด่นๆ ของพรรคเพื่อไทยว่าที่รัฐบาลใหม่ ซึ่งยังต้องดูว่าหากพรรคเพื่อไทยสามารถผ่านด่านเข้่มาเป็นนายกฯ และเป็นรัฐบาล จะเดินหน้านโยบายที่หาเสียงที่ประชาชนคาดหวังไว้สูงได้มากน้อยรวดเร็วได้ดังใจขนาดไหน