พรรคก้าวไกล แถลง ยกให้ "เพื่อไทย" จัดตั้งรัฐบาล ดันแคนดิเดตเพื่อไทย
ที่พรรคก้าวไกล เมื่อเวลา 11.00 น. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงว่า วันนี้พรรคก้าวไกลแถลงการจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้ง 14 พ.ค.เนการประกาศเจตจำนงประชาชนต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล เลือกก้าวไกล เพื่อไทย จนชนะอันดับ 1 และอันดับสอง ดังนั้นเป้าหมายสูงสุดในฐานะพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จ เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจรัฐบาลเดิม แต่ตลอด2เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ชี้ชัดว่าทุกองคาพยพของอนุรักษ์นิยม ไม่ยอมให้ก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เอาเรื่องมาตรา 112 มาบังหน้า อ้างความจงรักภักดีมาปะทะกับการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังเคลื่อนไหวผ่านกกต.และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังตัดสิทธิแกนนำพรรคและยุบพรรคให้ได้
นายชัยธวัชกล่าวว่า สว.ฝืนมติมหาชนไม่โหวตให้ มิหนำซ้ำยังกล้าทำลายหลักการตีความข้อบังคับของรัฐสภา ให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เปรียบเหมือนการล้มล้างการปกครอง หรือฉีกรัฐธรรมนูญ ผ่านกฎหมู่ เพียงเพื่อต้องการขัดขวางไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ เป็นครั้งที่ 2 พรรคก้าวไกลไม่ยอมรับการตีความดังกล่าว
"แต่ภายใต้การทำงานที่สอดประสานกันทั้งองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเช่นนี้ เราจำเป็นต้องขอโทษต่อพี่น้องประชาชน และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกเขาไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ดี การที่นายพิธา ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ได้หมายความว่า ภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อพลิกขั้วอำนาจรัฐบาลจะไม่สำเร็จไปด้วย เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 ยังคงอยู่ นั่นคือการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้สำเร็จ สิ่งสำคัญในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องนายพิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่คือเรื่องประเทศไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยได้หรือไม่ หยุดการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่
“เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลจะเปิดโอกาสให้ประเทศให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรค ที่เราได้เคยทำเอ็มโอยูร่วมกันเอาไว้ ดังนั้น ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เช่นเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล” เลขาธิการพรรคก้าวไกล
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า การแถลงครั้งนี้ผ่านการเห็นชอบจากหัวหน้าพรรค พรุ่งนี้ นายพิธา กลับมาทำงาน กำลังใจดี