ภายหลังการลงคะแนนเสียงนายกรัฐมนตรี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล คะแนนเสียงในรัฐสภาไม่ผ่านในรอบแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา

และได้มีการคาดการณ์ว่า จะมีการลงคะแนนฯในรอบที่ 2 วันที่ 19 ก.ค.นี้ ขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” จะมีโอกาสสูงต่อการจัดตั้งรัฐบาลพร้อมกับเสนอชื่อ ‘เศรษฐา ทวีสวิน’ ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรีลำดับที่ 30 ของไทย

สำหรับ “เศรษฐา ทวีสิน” เคยดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ก่อนประกาศลาออกทุกตำแหน่งในบริษัท แสนสิริ ซึ่งมีผลไปตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.66 ที่ผ่านมา เพื่อเข้าสู่สนามการเมืองไทยเต็มตัว ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีไทย จากพรรคเพื่อไทย

โดยเศรษฐา ได้ขอลาออกจากแสนสิริโดยไม่รับเงินเดือนพร้อมโอนหุ้นที่เคยถืออยู่ในบริษัทจำนวน 13 แห่ง ให้บุคคลอื่น รวมถึง ชนัญดา บุตรคนเล็กของเขา

ด้านประวัติ

เศรษฐา  มีชื่อเล่น “นิด” เกิดวันที่ 15 ก.พ. 2506 เป็นบุตรคนเดียวของร้อยเอกอำนวย ทวีสิน กับ ชดช้อย (สกุลเดิม: จูตระกูล)

โดยสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการเงินที่มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์ (Claremont Graduate University) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ

ด้านชีวิตครอบครัว

สมรสกับแพทย์หญิงพักตร์พิไล (สกุลเดิม: ปลัดรักษา) มีบุตร 3 คน

ด้านการทำงาน

หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทในปี พ.ศ. 2529 เศรษฐา เข้าทำงานที่พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เป็นเวลา 4 ปี ต่อมาได้ย้ายไปทำงานที่ บริษัท แสนสำราญ จำกัด ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) พร้อมดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ

ด้านการเมือง

โดยในเดือน พ.ย. 2565 เศรษฐา ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในงานการเมือง หลังประกาศว่าตนได้สมัครเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา ในเดือนมีนาคมปี2566  พรรคเพื่อไทย แต่งตั้ง เศรษฐา เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวของพรรค กล่าวคือเป็นที่ปรึกษาให้กับ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย

ต่อมาในวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา  เศรษฐา ได้ทวีตข้อความคัดค้านระบบเกณฑ์ทหารโดยการบังคับ ซึ่งก่อนหน้านั้นยังได้แสดงหลักฐานการเกณฑ์ทหารของบุตรชายคนโตและคนกลาง เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาอันเกี่ยวกับทั้งสองคนดังกล่าว

ถัดมาในไม่กี่วันต่อมา พรรคได้เสนอเขาในบัญชีรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับแพทองธาร ชินวัตร และชัยเกษม นิติสิริ ในกลางเดือนเดียวกัน

โดยช่วงระหว่างการปราศรัยที่จังหวัดเลย เศรษฐา กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีส่วนร่วมในการรัฐประหาร

ข้อมูล-วิกิพีเดีย