เลขาพรรคก้าวไกลอภิปรายเรียกร้องสมาชิกรัฐสภาโหวต “พิธา” เป็นนายก นกรานแก้ม.112 เพื่อรักษาสถาบัน

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล อภิปรายในรัฐสภาว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชนะการเลือกตั้งและได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุด จึงควรจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามครรลองปกติในระบอบประชาธิปไตย เมื่อประชาชนเลือกแล้วว่านายพิธาควรได้เป็นนายกฯ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ ประชาชนเกิดคำถาม หากนายกฯ คนใหม่ไม่เป็นไปตามผลเลือกตั้ง แล้วเราจะเลือกตั้งไปทำไม

นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ข้อลงรายละเอียดนโยบายแก้ไขม.112 แต่อยากอธิบายว่าข้อเสนอของพรรคก้าวไกลอยู่บนฐานความคิด ที่ว่า สถาบันหลักของชาติ หรือ สถาบันการเมืองใดๆก็ตาม จะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชน ไม่มีสถาบันใดที่จะสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยการกด ปราบ บังคับ แล้วนี่เป็นสิ่งที่เราพยายามจะเตือนให้สติ กับ สมาชิกรัฐสภา และสังคมไทย กับ ผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ข้อให้ตั้งสติและมองการณ์ไกลและวิธีการใดที่จะรักษาที่เรารักไว้ให้ดำรงอยู่ได้ ภายใต้พลวัตรที่เปลี่ยนไป

“เราไม่เชื่อว่า สิ่งใดๆ จะดำรงอยู่ได้ด้วยการสถิตย์อยู่เหมือนเดิมทุกประการแล้วจะมั่งคงสถาพร และมันไปไกลกว่านั้น หลายท่านบอกว่าหากเลือกคุณพิธาจากพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการไม่รักชาติ เป็นการไม่เคารพรักสถาบันพระมหากษัตริย์ นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมอยากบอกว่าไม่ควรเกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษิตริย์เป็นประมุข”  นายชัยธวัช กล่่่าว 

นายชัยธวัช กล่าวว่า พระมหากษัตริย์ สถาบันพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ต้องอยู่เหนือการเมือง ต้องอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง แล้วมันอันตรายมากที่ต่างฝ่ายต่างดึงเรื่องนี้มาพัวพันความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเห็นอยู่แล่้วในสองทศวรรคที่ผ่านมาผลในวันนี้เป็นอย่างไร พรรคก้าวไกลพยายามเสนอต้องช่วยกันนำสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความขัดแย้งทางการเมือง และการนำสถาบันพระมหากษัตริย์ปะทะกับผลการเลือกตั้ง ยิ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง

สุดท้ายเชิญชวนสมาชิกรัฐสภาลงมติให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่พี่น้องได้เลือกมาแล้ว