เพื่อไทย-8พรรคร่วม ดัน”พิธา"ขึ้นฝั่งนั่งนายกฯ

เพื่อไทย-8พรรคร่วม ดัน”พิธา
“ภูมิธรรม" ยืนกราน “เพื่อไทย-8พรรคร่วม” ดัน "พิธา" ขึ้นฝั่งนั่งนายกฯ เชื่อ”ส.ว."หลายคนหวังดีต่อชาติ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การโหวตนายกรัฐมนตรี ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 13 ก.ค.นี้ ว่า ได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ต้นว่ามีทิศทางอย่างไร สิ่งที่ออกมาตั้งแต่การโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เรารู้ว่ามีแนวทางอย่างไร และเป็นไปตามความมุ่งหวังของเรา เรามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่า 8 พรรคจะทำรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้สำเร็จ เสียงของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดจะไปตามทิศทางที่คุยกันไว้ตั้งแต่ต้น หลังจากนี้จะยังต้องมีการเตรียมความพร้อมไปในทางเดียวกันอีกครั้ง คาดว่าในวันที่ 10 - 12 ก.ค.นี้ จะมีการจัดสัมมนา ส.ส.ก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ 

เมื่อถามว่า 8 พรรคร่วมจะต้องมีการพูดคุยก่อนวันลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคเพื่อไทยได้ประสานงานกันไปเบื้องต้นแล้วว่าทิศทางที่ชัดเจนแน่วแน่เราจะจับมือเดินไปด้วยกัน เราจะต้องมีเวลาประเมินสถานการณ์ร่วมกันก่อนวันโหวตว่าจะมีทิศทางอย่างไร หรือจะต้องปรับปรุงในส่วนใด ขณะนี้เลขาธิการพรรคเพื่อไทยได้ประสานไปยังเลขาธิการพรรคก้าวไกลว่าจะมีความจำเป็นว่าจะต้องมีหรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าไม่มีอะไรน่ากังวลก็อาจจะไม่ต้องประชุมหารือร่วมกัน แต่ส่วนตัวเห็นว่าได้พูดคุยกันซักหน่อยก็คงจะดี เพื่อจะได้เห็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นเหมือนการทำความเข้าใจสถานการณ์ และจะได้ไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.ในพรรคของตัวเองให้เข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน 8 พรรคร่วมจะได้เดินไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อถามถึงบันทึกข้อตกลงในการแถลงข่าวร่วมกันเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีอยู่ 1 ข้อที่จำเป็นจะต้องมีการช่วยสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล เต็มความสามารถในการเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องไปถึงจุดไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งสำคัญจริงๆ คือเจตนารมย์ที่เรากำลังแสดง กับแนวคิดความมุ่งมั่นว่าจะจับมือกันอย่างมั่นคง และ 8 พรรคร่วมก็จะแสดงความมั่นใจให้กับประชาชนทราบว่าเราจะร่วมมือผลักดันให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตย ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงผลักดันนายพิธาเป็นนายกฯ ถือเป็นเจตจำนงค์ที่มุ่งมั่นชัดเจนให้ประชาชนมั่นใจ ส่วนจะเดินหน้าไปอย่างไรต้องดูตามสถานการณ์ โดยพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้ประเมิน และตอบคำถาม หากมีประเด็นอะไรที่จะเกิดขึ้นก็ต้องมาหารือกันใน 8 พรรคร่วมช่วยกันคิด และผลักดัน

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้มีการเข้าไปช่วยพูดคุยกับ ส.ว.ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อาจจะช่วยพูดคุยกับ ส.ว.บางคนที่รู้จัก และแนะนำให้พรรคก้าวไกลไปพูดคุยทำความเข้าใจด้วยตัวเองด้วย แต่ภารกิจหลักต้องเป็นพรรคแกนนำ ยอมรับว่ามี ส.ว.หลายคนที่รู้จักกับ ส.ส.ของเพื่อไทย หลายคนก็มีเจตนารมย์ ส่วนใหญ่หวังดีกับประเทศชาติ เพียงแต่อาจมีแนวคิดทางการเมืองแตกต่างกัน แต่เป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจกันได้

เมื่อถามถึงการแก้ไขมาตรา 112 ที่ดูเหมือนเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ยากต่อการจะได้มาของเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม รวมถึงเสียงของ ส.ว.ที่จะไม่สนับสนุนให้นายพิธา ทางพรรคก้าวไกลควรจะแสดงท่าทีอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอไม่ก้าวล่วงและคิดแทนพรรคก้าวไกล แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เรื่องใดก็ตามที่ยังมีความแตกต่างกัน และยังมีปัญหาไม่ได้แค่เรื่องมาตรา 112 ควรจะมาคุยกันบนพื้นฐานการเปลี่ยนผ่าน ไม่ว่าประเด็นใดก็ตามที่มีความเห็นแตกต่างกัน หรือจะมีความขัดแย้งก็ควรจะหลีกเลี่ยง เพราะอาจจะเกิดความรุนแรงในอนาคต สิ่งที่ดีที่สุดคือการเปิดเวทีให้ได้พูดคุยกัน หากจำเป็นก็ต้องให้กระบวนการสภาฯเข้ามาแก้ไขเพื่อหาช่องทางให้ทุกฝ่ายยอมรับได้