เปิดสูตร14+1 แบ่งโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรี "เพื่อไทย-ก้าวไกล"ก่อนเจรจารอบใหม่ 28 มิ.ย.นี้ท่ามกลางสองฝ่ายต้องการยึดกุมเก้าอี้ประธานสภา

ตามที่ประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เสนอให้ คณะเจรจาของพรรคเพื่อไทย ไปเจรจากับพรรคก้าวไกล เรื่องตำแหน่งประธานสภาและโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีในวันที่ 28 มิ.ย.ยึดตามข้อเสนอเดิม คือ พรรคก้าว ได้ 14+1 ที่นั่ง คือ 14 เก้าอี้รัฐมนตรี และ 1 นายกฯ ซึ่งเป็นเก้าอี้ของผู้นำฝ่ายบริหาร ส่วนพรรคเพื่อได้ 14+1 คือ 14 เก้าอี้รัฐมนตรี และ ประธานสภาฯ ซึ่งเป็นผู้นำของฝ่ายนิติบัญญัติ นั้น

ที่ไปที่มาของสูตรแบ่งเก้าอี้ 14 +1 นั้น เกิดขึ้นในการเจรจารอบแรกๆ ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย เบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุป คือต่างฝ่ายต่างต้องการแสดงความต้องการเข้าไปบริหารกระทรวงนั้นๆ  โดยตกลงแบ่งโควต้ากันคร่าวๆ ซึ่งยึดจำนวน เสียงของส.ส.รัฐบาล 312 เสียง เป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วยจำนวนเก้ารัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญคือต้องไม่เกิน 35 คน ไม่รวมนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางพรรคก้าวไกล และเพื่อไทย จะได้รัฐมนตรีประมาณ 14 ตำแหน่ง ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้ยื่นข้อเสนอไปว่า เมื่อพรรคก้าวไกล ได้ฝ่ายบริหารคือตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยขอฝ่ายนิติบัญญัติคือ ประธานสภา จึงมีสูตร 14 +1 โดยสองฝ่ายจะมีรองนายกฯรัฐมนตรีพรรคละ 2คน ซึ่งให้สามารถวบรัฐมนตรีว่าการได้

ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย จะได้โควต้ารัฐมนตรี 14 เก้าอี้ เบื้องต้นประกอบด้วย 2 รองนายกรัฐมนตรี 6 รัฐมนตรีว่าการ  6 รัฐมนตรีช่วย โดยในส่วนของ 6  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้นได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้น จะประกอบด้วย 1.รมว.คมนาคม 2.รมว.พลังงาน 3.รมว.ต่างประเทศ 4.รมว.พาณิชย์ 5.รมว.สาธารณสุข 6.รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ นั้นให้ไปอยู่ในกระทรวงที่มีรัฐมนตรีว่าการเป็นของพรรคอื่น สำหรับบวก 1 คือตำแหน่ง ประธานสภาผูแทนราษฎร

ในขณะที่ พรรคก้าวไกล ได้แสดงความประสงค์  ต้องการจะเข้าไปบริหาร ใน กระทรวงต่างๆ อาทิ รองนายกรัฐมนตรีคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  รมว.คลัง รมว.มหาดไทย รมว.กลาโหม รมว.ดีอีเอส รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รมว.แรงงาน รมว.ศึกษาธิการ 

ในขณะที่ 4 กระทรวง คือ รมว.ยุติธรรม รมว.อุตสาหกรรม รมว.ท่องเที่ยว รมว.วัฒนธรรม  ทั้งสองพรรคยังไม่มีการพูดถึงว่าจะเข้าไปดูแลหรือจะจัดสรรให้พรรคร่วมพรรคอื่นหรือไม่ โดยตามสัดส่วนโควต้า พรรคประชาชาติ จะได้ 1 รมว. และพรรคไทยสร้างไทย จะได้ 1 รัฐมนตรีช่วยฯ ซึ่งทั้งหมดยังไม่ได้ตกลงกันชัดเจนทำให้การเจรจายังค้างกันอยู่  เพราะตกลงเรื่อตำแหน่งประธานสภากันไม่ได้ และได้นัดเจรจาหาข้อยุติกันในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ผลจะเป็นประการใดต้องตามกันอย่ากระพริบ การเมืองพลิกผันได้ตลอดเวลา