ภูมิใจไทยเปิดตัว ‘ลลิตา ฤกษ์สำราญ’ คืนสังเวียนการเมือง ประกาศปักธง สนาม กทม.

ภูมิใจไทยเปิดตัว ‘ลลิตา ฤกษ์สำราญ’ คืนสังเวียนการเมือง ประกาศปักธง สนาม กทม.
แกนนำภูมิใจไทย เปิดตัว ‘ลลิตา ฤกษ์สำราญ’ คืนสู่สังเวียนการเมือง  ประกาศปักธง สนาม กทม.

นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีม กทม.พรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับ ลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครหลายสมัย เป็นว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย  

นายโสภณ ได้ประกาศยุทธศาสตร์ปักธง สส.เขตใน กทม. ซึ่งในอดีตกระแสพรรคอยู่ในลำดับกลางถึงท้าย การที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงเดือนกว่า ทำให้กระแสความเชื่อมั่นใน กทม.พลิกผัน โดยเชื่อว่าพรรคสามารถบริหารประเทศได้ การเลือกตั้งที่จะถึงพรรคจึงมีแรงดึงดูดให้บุคคลที่มีคุณภาพมาร่วมงาน โดยเน้นการผสมผสานนักการเมืองที่มีประสบการณ์ มีคุณภาพกับนักการเมืองที่มีแนวความคิดใหม่

"พรรคการเมืองแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ใช้วาทกรรมอุดมการณ์ ซึ่งไม่เคยนำมาสู่การปฏิบัติได้ และพรรคภูมิใจไทยจัดอยู่ในกลุ่มนักปฏิบัติ เรามาเป็นรัฐบาลเราลงมือทำทันที ที่เราใช้สโลแกนพูดแล้วทำ และมีการเพิ่มสโลแกนใหม่ ‘Quick Big Win’ ประเทศไทยต้องเดินเร็ว ต้องทำใหญ่ และต้องชนะสำเร็จ อย่างนโยบายคนละครึ่งพลัส นโยบายต่อยอดที่พยายามทำดีกว่าเดิม เชื่อว่ากทม.คราวนี้เราปักธงได้อย่างแน่นอน จะทยอยนำนักการเมืองที่มีคุณภาพมาเปิดตัว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น"

น.ส.ศุภมาส กล่าวถึงยุทธศาสตร์การเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า  ขณะนี้มีอดีต สส.สก.ติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้พรรคมีมติส่งผู้สมัคร สส.กทม.เราเปิดรับเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์การทำงาน หรือเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง เพศชาย เพศหญิง หรือ LGBTQ เราเน้นเรื่องความเสมอภาค หากท่านใดมีความมุ่งมั่น ที่จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ที่พูดแล้วทำ เพื่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน และมีความประสงค์จะมาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคเรายินดีอ้าแขนเปิดรับทุกท่านที่มีอุดมการณ์ และคิดว่าตนมีความสามารถ ความตั้งใจแล้วสามารถเดินมายื่น เป็นว่าที่ผู้สมัครในเขตกทม.ได้ตลอดเวลา

ด้าน ลลิตา กล่าวว่า แม้จะห่างหายจากเวทีการเมืองตั้งแต่ปี 2550 แต่ก็ยังคงผูกพันกับประชาชนในพื้นที่และติดตามงานสาธารณะมาโดยตลอด ยอมรับว่าตัดสินใจกลับสู่การเมืองเพราะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยเป็น พรรคนักปฏิบัติ  พูดแล้วทำ และนโยบายที่โดนใจอย่างคนละครึ่งพลัสที่ออกมาเพียงเดือนกว่าได้ช่วยประชาชนระดับรากหญ้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทำให้ชาวบ้านและร้านค้าที่บอกว่าขายไม่ดีมานานมาก แต่วันนี้ขายดีขึ้นทันตา เพราะประชาชนเดือดร้อนมากจริงๆ
 

TAGS: #ภูมิใจไทย #เลือกตั้ง69 #สนามกทม. #ลลิตาฤกษ์สำราญ